X

เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ จ.สระแก้ว

สระแก้ว – เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ใน อ.ตาพระยา อรัญประเทศ และคลองหาด จ.สระแก้ว ส่งผลให้บ้านเรือน โรงเรียน ถนนหลายจุด ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ตลาดฝั่งเมืองปอยเปต ถูกพายุพัดพังราบลงมากองกับพื้น

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ของ จ.สระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้เกิดพายุลมฝนแรงทำให้ไฟฟ้าดับ พายุได้พัดหลังคาสังกะสีบ้านพักอาศัยหลายจุดของชาวบ้านจนหลังคาเปิดออก ซึ่งมีอาจารย์ในพื้นที่ได้แจ้งข้อมูลว่า หนึ่งในบ้านที่ได้รับผลกระทบมีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 4 คน มีหลานพิการอยู่ 1 คนชื่อ ด.ช.อมรเทพ พุตทอง อายุ 13 ขวบ และ ด.ช.พร้อมพงษ์ เพชรโกมล อายุ 8 ขวบ พร้อมพี่ชายคนโตอีก 1 คน ที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น บ้านหลังดังกล่าวยังเป็นบ้านของ นายวสันต์ เพชรโกมล หรือจอร์ด อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาทุนรักบี้และเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล มหาวิทยาลัยธนบุรี ชั้นปีที่ 3 สาขาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม บ้านเลขที่ 161 หมู่ 13 หมู่บ้านทุ้งทะเล ต.ทัพราช ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง ทางอาจารย์จึงเป็นตัวแทนขอความอนุเคราะห์ผู้มีจิตศรัทธา ขอความช่วยเหลือและซ่อมแซมบ้านให้กับเด็กทั้ง 4 คน ซึ่งเคยเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ ไมค์หมดหนี้ นักร้องนำโชค ทางช่องเวิร์คพอย เพื่อหาเงินสร้างบ้านดังกล่าวก่อนหน้านี้ด้วย

ล่าสุด ช่วงสายของวันนี้ นายพรพงษ์ เสาวคนธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช พร้อมด้วย นางสาวนิตยา สมัคคดี รองปลัด อบต.ทัพราช นายบุญนำ พงษ์สุริยะ หัวหน้าสำนักปลัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอตาพระยา เจ้าหน้าที่ รพ.สต.หนองติม ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 13 บ้านทุ้งทะเล ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมกับร่วมกันมอบสังกะสีให้แก่ผู้ประสบภัยจากพายุฝนตกหนัก เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมี นางธัญลักษณ์ ฮวดเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน ม.13 บ้านทุ้งทะเล พาลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน บริเวณเส้นทางถนนเลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลายจุดในพื้นที่ ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบว่าก็มีต้นไม้ล้มกีดขวางถนนศรีเพ็ญ จนรถยนต์ไม่สามารถผ่านไปได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตัดรื้อออกไป

ส่วนพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.คลองลึก พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ฮะกาว รอง.ผกก.ป.สภ.คลองลึก พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ สวป.สภ.คลองลึก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแล หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ตำบลป่าไร่ ได้รับความเสียหายหลายหมู่บ้าน ประกอบด้วย พื้นที่หมู่ 2, 3 ,4 ,5 ,8 ,9 และมีโรงเรียนได้รับความเสียหาย 2 แห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนไทยเสรี ต้นไม้ใหญ่ 18 ต้น ล้มทับอาคารอนุบาล 1 หลัง ถนนในหมู่บ้านตามตรอก ซอยใช้การได้บางส่วน มีต้นไม้ล้มขวางถนน 5 จุด ต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าตัดรื้อออกจากเส้นทาง สถานที่ราชการ โรงเรียน วัด มีเสาไฟฟ้าล้มจนเกิดไฟฟ้าดับ 7 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างการแก้ไขของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งขณะเข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้เกิดฝนตกลงมาเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

ขณะเดียวกัน มีรายงานแจ้งว่า ฝั่งเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.วานนี้ ขณะเกิดพายุฝนลมแรง ส่งผลให้พื้นที่เมืองปอยเปต ถูกลมพายุฤดูร้อนพัดถล่มเช่นกัน โดยพายุได้หอบเอาตลาดมงคล ฝั่งปอยเปต ล้มลงและพังราบลงไปอยู่กับพื้นทั้งตลาด มีรถยนต์และทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน

นอกจากนั้น พื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธภูมิ รั่งกลาง รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทนปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาด ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ในนามของศูนย์ช่วยเหลือประชาชนเทศบาลตำบลคลองหาด ได้ลงลงพื้นที่เพื่อมอบวัสดุช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุวาตภัยจำนวนมากด้วย ส่วนพื้นที่อื่น เช่น ต.คลองไก่เถื่อน บ้านเขาภูหีบ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

—————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"