ตรัง – เจ้าหน้าที่เร่งถอดภาพจากกล้องวงจรปิดที่หามาได้ เพื่อเร่งแกะรอยมือปืนที่ยิงทนายเหว่า แกนนำเรียกร้องที่ดินทำกินในสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานให้แก่ชาวบ้านไร้ที่ดินทำกิน และอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ชนิดและขนาดของหัวกระสุนปืนที่เก็บในที่เกิดเหตุและจากศพผู้ตาย เพื่อเทียบเคียงดีเอ็นเอของคนร้าย คาดเป็นกระสุนปืนขนาด .38 ขณะที่ชาวบ้าน เรียกร้องตร.เร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ทั้งขบวนการ เชื่อจะมีคนตายอีกหากจับไม่ได้ และเรียกร้องเร่งดำเนินผู้ต้องหายิงคนหาของป่าก่อนหน้านี้
วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จากกรณีที่มีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงนายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า อายุ 54 ปี ชาว ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ซึ่งเป็นแกนนำเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน เนื้อที่ 638 ไร่ ใน อ.วังเศษ จ.ตรัง ให้แก่ชาวบ้านที่ยากไร้ โดยเสียชีวิตกลางสวนยางพารา หมู่ที่ 10 ต.วังมะปราง ใกล้สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สภ.วังวิเศษ พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งถอดเทปภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนมากที่รวบรวมมาได้จากถนนสายต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่จุดเกิดเหตุ ทั้งในพื้นที่ ต.วังมะปราง รวมทั้งตำบลใกล้เคียง และพื้นที่ อ.สิเกา ที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนี โดยนำภาพมาเช็คย้อนหลังนับจากวันเกิดเหตุไปนานนับสัปดาห์ โดยเชื่อว่าคนร้ายจะต้องขับรถเข้ามาดูลาดเลาและสำรวจเส้นทางก่อนล่วงหน้า และวันเกิดเหตุสะกดรอยตามผู้ตายมาจากด้านนอก และต้องมีคนในพื้นที่เป็นคนชี้เป้า และชี้จุดสวนยางพาราของผู้ตาย จึงสามารถเข้าถึงตัว และเป็นคนพาหนี ออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะไปขึ้นรถหลบหนีไปได้ หรืออีกนัยยะหนึ่ง เชื่อว่าจะต้องเป็นคนที่ผู้ตายรู้จักเพราะสามารถยิงได้ในระยะกระชั้นชิด สังเกตได้จากบาดแผลที่ หน้าท้อง และบริเวณเท้า
โดย พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง. กล่าวว่า 3 วันเต็มๆ ที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งกำลังรอผลการตรวจพิสูจน์หัวกระสุนปืนที่ได้จากที่เกิดเหตุ และได้จากศพผู้ตาย ซึ่งได้ส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ตรวจพิสูจน์ว่ากระสุนปืนชนิดใดแน่ ระหว่างขนาด .38 และขนาด .357 เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนขนาด.38 เพื่อเป็นหลักฐานเทียบเคียงกับอาวุธปืน , ดีเอ็นเอของคนร้าย และเครื่องกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ และเทียบเคียงกับคดีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้น ขณะเดียวกันรอการใช้หลักฐานทางโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัย โดยวันเกิดเหตุ หลังผู้ตายเข้าไปถึงสวนยางก็ได้เดินไปหาคนงานที่กำลังตัดหญ้า จากนั้นเมื่อเห็นมะละกอที่ต้น ก็แวะเก็บมะละกอใส่กระสอบปุ๋ยเดินมาจะเอาไปเก็บไว้ในรถ เชื่อจังหวะนั้นถูกคนร้ายออกมาดัก และพูดคุยกัน และยิงดังกล่าว ก่อนจะหลบหนีไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และเร่งทำงานเต็มที่ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งคดีนี้มีความคืบหน้าพอสมควร เพราะหลายชุดทั้งสืบสวนจังหวัด สืบสวนภาค 9 และกองปราบปราม ทำงานร่วมกัน
ทางด้านนางสาวนิรมล บัวคง อายุ 27 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นญาติของนายเพ็ชรฤทธิ์ จันทร์ดวง อายุ 26 ปี ชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่ากับเพื่อน และเข้าไปเก็บผลปาล์มน้ำมันในสวนปาล์มดังกล่าว แต่ถูกคนร้าย ซึ่งเป็นคนของกลุ่มอิทธิพลที่เข้าไปครอบครองสวนปาล์มน้ำมันยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ โดยกระสุนเจาะเข้าบริเวณข้อศอกด้านซ้าย และหน้าอกใกล้ลำคอ โดยที่บริเวณหน้าอก กระสุนฝังใน และเพื่อนคือ นายทวีศักดิ์ เหมรา อายุ 33 ปี กระสุนถูกเข้าบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เช่น ที่หน้าแข้ง หลังเท้าและเหนือเข่า ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุมีทนายเหว่ามาช่วยเรียกร้องตำรวจให้จับคนร้าย และต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายจำลอง แซ่ตัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง หมู่ 10 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ ไว้ได้ และได้ประกันตัวออกมา โดยนางสาวนิรมล ระบุว่า กระสุนที่ฝังอยู่ที่หน้าอกนายเพ็ชรยังไม่ได้ผ่าออก เพราะหมอบอกว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ ส่วนของคดีค่อนข้างจะล่าช้า และไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งถึงความคืบหน้าของคดีให้ได้รับทราบ และเรียกร้องให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเชื่อหากจับไม่ได้ จะยังมีชาวบ้าน และแกนนำที่เหลือถูกยิงอีก เพราะคนทำเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขณะนี้ชาวบ้านก็หวาดกลัว ไม่ค่อยกล้าออกไปกรีดยาง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ทราบว่า คดีดังกล่าวนี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.วังวิเศษ ได้รีบนำสำนวนและเรียกตัวนายจำลอง ส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนคดีอย่างรีบร้อน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงทนายเหว่า แกนนำเสียชีวิตในพื้นที่ใกล้เคียงกันเมื่อเช้าวันที่ 4 พฤษภาคม ส่วนศพของทนายเหว่า ขณะนี้ญาติได้เก็บศพไว้รอการประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดเขาพระวิเศษ เพื่อรอสถานการณ์โควิด และให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ แม้เบื้องต้นจะไว้วางใจการทำงานของตำรวจ แต่ก็หวั่นคดีจะจับคนร้ายไม่ได้
