สมุทรสาคร – ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจค้นล้งปลา-ล้งหมึก พื้นที่ ต.ท่าจีน พบต่างด้าวผิดกฎหมาย จ่อเอาผิดนายจ้าง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 2564 นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะรับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายวันชัย สาครมณีรัตน์ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร นายเฉลิมพล เนียมสกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฯ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดฯ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานฯ สำนักงานประมงจังหวัดฯ กอ.รมน.จว.สมุทรสาคร ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร และสมาชิก อส. ลงพื้นที่ตรวจสอบล้งปลา 2 แห่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร
หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้าออกภายในล้งปลาดังกล่าว เกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ โดยล้งปลาแห่งแรกมีเนื้อที่ 3 ไร่ ทางเข้าเป็นถนนซอยเล็ก ๆ มีห้องแถวที่พักคนงานประมาณ 15 ห้องตั้งอยู่ตามแนวถนนจนถึงอาคารด้านในซึ่งเป็นล้งปลา ขณะเข้าตรวจค้นปรากฎว่าแรงงานต่างด้าววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าจากบริเวณด้านข้าง เจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวมาได้ 7 คน จากนั้นได้ตรวจค้นล้งปลาแห่งที่ 2 บริเวณซอยใกล้เคียงกัน
จากการตรวจสอบล้งปลาทั้ง 2 แห่ง พบมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 8 คน ฐานเป็นแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ปี 2560 และฐานเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 รวมถึงแรงงานต่างด้าว 6 ใน 8 คน มีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร กรณีห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวข้ามจังหวัด
ส่วนผู้ประกอบการหรือนายจ้างมีความผิดฐานรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และประกอบกิจการโดยไม่ได้ขออนุญาต ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวและนายจ้าง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาครเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน นายวุฒิพงษ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบล้งหมึกแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ข้างตลาดทะเลไทย หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร หลังได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ โดยล้งหมึกดังกล่าวมีลักษณะอาคารเป็นโรงเรือน มี 3 อาคาร โดยมีแผงเช่าพื้นที่ จำนวน 60 แผง คนงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวรับจ้างลอกหมึก ส่วนใหญ่คิดเป็นค่าจ้างเป็นกิโลกรัม
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเรียกแรงงานต่างด้าวกว่า 200 คน มาเรียกตรวจเอกสาร พบมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 14 คน แบ่งเป็นความผิดฐานแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ และความผิดฐานคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จำนวน 8 คน
รวมถึงความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน ไม่แจ้งต่อนายทะเบียนให้ทราบผู้เป็นนายจ้าง ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดฯ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว จำนวน 5 คน และความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน ไม่แจ้งต่อนายทะเบียนให้ทราบผู้เป็นนายจ้าง ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ จำนวน 1 คน
ส่วนผู้ประกอบการ นายจ้าง มีความผิดฐานรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกกฎหมาย ไม่เปลี่ยนชื่อทะเบียนนายจ้าง และความผิดตาม พ.ร.ก.การประมงฯ จะได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ตามสัญญาเช่าแผงที่มีชื่อของนายจ้างผู้ประกอบการเช่าแผงประกอบกิจการล้งหมึก เพื่อดำเนินคดีต่อไป
