จากเหตุการณ์โซเชียล (อยากดังเดี๋ยวจัดให้) ระบุเรื่องเล่าหลังไมค์ เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย อย่าหนี อย่าเบี้ยว นึกถึงตอนไปหยิบยืมบ้าง เป็นเจ้าหนี้ก็ทวงไปตามความเหมาะสม แต่.. ถึงกับเอาปืนจ่อ และขู่บังคับให้ลูกหนี้ตบหน้า มันเกินกว่าเหตุไหม เรื่องหนี้ติตามตอนต่อไป และให้สังคมตัดสินที เป็นเรื่องเงินกู้ราย 3 วัน ที่ลพบุรี ตามทวงหนี้แบบนี้ มันเกินไปครับ ผมไม่ใช่ลูกหนี้ แต่เห็นแล้วมันเกินไปครับ น้องที่รู้จักส่งมาให้ เขาก็เป็นลูกค้าที่ถูกขู่เหมือนกัน แต่ยังไม่เท่ากับในคลิป เขารู้ว่ากลุ่มนี้มีคนหนุนหลังเลยกลัว ไม่กล้าแจ้งความ เดี๋ยวถ้าได้รายละเอียดผมจะส่งให้อีกทีนะครับ …..
ตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ คือคลิปที่ถือปืนขู่แล้วบังคับให้ผู้เสียหายตบหน้าตัวเองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว. ลพบุรี และ พ.ต.อ. สถาพร รอดโพธิ์ทอง ผกก.สภ.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี เจ้าของพื้นที่กรณีที่เป็นข่าวตามเบาะแส และที่มาของคลิปดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.โคกตูม จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.โคกตูม ออกติดตามตัวผู้ที่อยู่ในคลิปมาเพื่อสอบสวนปากคำ ซึ่งสามารถนำตัวทั้ง3 คนในคลิปมายัง สภ.โคกตูม ในช่วงเวลา 09.00 น. วันที่ 17 พ.ค. 64
โดยเมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตาม เจ้าของเงินกู้ในคลิป คือ น.ส.นภาพร หรือหนึ่ง ใจมั่น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/3 หมู่ 11 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นผู้ถือปืนขู่ลูกหนี้ตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอด้วย และนายณัฐฤทธิ์ หรือเกมส์ เซียงหลิว อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 257 หมู่ 1 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นผู้ทำการถ่ายคลิปและบอกให้ลูกหนี้ตบหน้าตัวเอง มาทำการแยกห้องสอบสวน โดยมี น.ส.กรวินท์ หรือแต พันธุ์พรม อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 396 หมู่ 2 ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ผู้เสียหายที่ตบหน้าตัวเอง โดยมีอาวุธปืนข่มขู่ พร้อมกับเสียงตะโกนถามจะช้าอีกไหมๆ โดยมีผู้เสียหายตอบว่าไม่ช้าแล้วจ๊ะ ๆ ย้ำหลายครั้ง
หลังจากการสอบสวนในเบื้องต้น พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว ตามคลิปที่ปรากฏและเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์นั้น รอง ผบก.กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าคลิปดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้จำวันเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ ซึ่งเป็นการจัดทำคลิปขึ้นมาเองโดย น.ส. นภาพรฯ ได้ว่าจ้าง น.ส.กรวินท์ฯ จำนวน 500 บาท โดยทำการแสดงเป็นว่า น.ส.กรวินท์ฯ เป็นหนี้ น.ส.นภาพรฯ แล้วส่งเงินใช้หนี้ล่าช้า น.ส.นภาพรฯ เลยนำอาวุธปืนซึ่งเป็นปืนปลอม มาข่มขู่ ส่วนผู้ที่พูดบังคับให้ น.ส.กรวินท์ฯ ตบหน้าตัวเองก็คือ นายณัฐฤทธิ์ฯ ซึ่งเป็นผู้ทำการถ่ายคลิปในวันเกิดเหตุ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะนำคลิปไปใช้ในวงการแล่นแชร์ของ น.ส.นภาพรฯ กรณีลูกแชร์ส่งเงินค่าแชร์ล่าช้า แต่ก็ยังไม่เคยส่งคลิปไปข่มขู่ผู้ใดแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่นำคลิปออกมาเผยแพร่ น.ส.นภาพรฯ แจ้งว่าน่าจะเป็นนางใบพัดฯ ซึ่งเคยเป็นเลขาของตนเอง และ น.ส.นภาพรฯ จับได้ว่านางใบพัดปลอมสลิปการโอนเงินเพื่อหลอกลวงตนเอง เมื่อ น.ส.นภาพรฯ ทราบความจริงจึงได้ต่อว่าและไล่นางใบพัดฯ ออกจากงาน ทำให้ นายใบพัดฯ เกิดความไม่พอใจจึงนำคลิปออกไปเผยแพร่ตามที่ปรากฏดังกล่าวเพื่อหวังจะให้ น.ส.นภาพรฯ ถูกดำเนินคดี ส่วนคลิปที่เคาะประตูเรียก และตะโกนถามแม่ของลูกหนี้ ชื้อมิ้นค์ โดยบอกให้ถอนเสาบ้านหนี ๆ หากทนให้พ่อแม่นอนผวาได้ก็เอา เป็นคนละคลิป คนละที่กัน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบเสาะหาว่าเป็นเหตุที่ใด ซึ่งอาจจะไม่ใช่ในพื้นที่จังหวัดลพบุรีก็เป็นได้
นอกจากนี้จากการสอบถาม น.ส.กรวินท์ฯ ได้ให้การว่าเคยกู้ยืมเงินจาก น.ส.นภาพรฯ เป็นจำนวน 1,000 บาท โดยเมื่อครบกำหนด 5 วันจากวันที่กู้ยืม ก็จะต้องส่งเงินคืน จำนวน 1,150 บาท ซึ่งจากกรณีดังกล่าวเป็นการเรียกดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้ดำเนินคดี น.ส.นภาพรฯ ในข้อหาดังกล่าวเบื้องต้นตามกฎหมาย แต่หากพบว่าการกระทำของ น.ส.นภาพรฯ และนายณัฐฤทธิ์ฯ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงหนี้ฯ ก็จะได้ทำการดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ศุภชัย กอกัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกตูม ได้บันทึกปากคำ น.ส.นภาพร และนายณัฐฤทธิ์ ก่อนพาไปชี้จุดเกิดเหตุ และอาวุธปืนปลอมที่ให้ในการอัดคลิปตามที่กล่าว แต่ไม่พบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว โดยอ้างว่าระยะเวลากว่า 5-6 เดือน ไม่ทราบว่าใครเอาไป หรือว่าหายไปไหน จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.โคกตูม ได้ปล่อยตัวไป หลังการสอบสวนเสร็จจะเรียกมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหารัยกดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่ากฎหมายกำหนดเพียงข้อหาเดียว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: