วันที่ 12 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของนายไชยชษฐ์ สุขแสง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 9 ต.ชอนสมบูรณ์ อ.หนองม่วง ลพบุรี เจ้าของเครื่องไฟขยายเสียง”น้องเอ็มซาวด์” ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากที่เหตุนายมนตรี รื่นรมย์ อายุ 40 ไอ้คลั่งใช้ปืนลูกซองยาว 5 นัดยิงกราด เข้าไปในงานศพเนื่องจากไม่พอใจจากเสียงดัง และฉุนเป็นคนแปลกหน้านอกพื้นที่ เอาปืนจ่ออกลั่นกระสุนใส่อกน้องชาร์ปอย่างโหดเหี้ยม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายไชยเชษฐ์ ได้วิ่งหลบห่ากระสุนแต่ไม่พ้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.หนองม่วงในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะส่งตัวมาที่ รพ.บ้านหมี่เนื่องจากมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังพ่อของนายไชยเบษฐ์ และได้พูดคุยถึงเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ซึ่งนายไชยเชษฐ์กล่าวว่า คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์กับตัวเอง และน้องชาร์ป ที่ต้องมาตายด้วยน้ำมือคนคลั่งยาเสพติด รู้สึกเสียใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตนเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอดเช่นกัน ซึ่งตนเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนเข้าตามร่างกายถึง 9 เม็ด กระสุนทะลุ 3 เม็ด แพทย์ได้ดำเนินการผ่าตัดเอากระสุนที่ติดคาในจุดสำคัญออกได้จำนวน 3 เม็ด ยังเหลือค้างที่ต้นขาซ้ายอีก 3 เม็ด ที่แพทย์ระบุว่าไม่มีอันตรายไม่ต้องเอาออก ซึ่งขณะนี้ออกจากห้องวิกฤติ มาพักฟื้นที่ห้องรวม จะมีกำหนดออกจาก รพ.ในวันที่ 14 พ.ย. 61 นี้
นายไชยเชษฐ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีครอบครัวอยู่ด้วยกัน 9 ชีวิต ที่ตนเองต้องหาเลี้ยง มีลูกสาว 3 คน คนโตวัย 10 ขวบ คนรอง 6 ขวบ และลูกสาวคนท้ายวัย 1 เดือนเศษ พ่ออายุ 67 แม่อายุ 63 รวมถึงป้าที่ป่วยด้วยโรคชรา และหลานอีก 1 คนที่อยู่ในวัยเรียน ที่ตนเองต้องแบกภาระหาเลี้ยงที่บ้านไม่มีไร่ นา ซึ่งอาชีพการติดตั้งเครื่องไฟขยายเสียงก็มีเพียงฤดูกาลเท่านั้น จากนั้นก็ต้องออกรับจ้างทั่วไป ยอมรับว่าน้อยใจที่ไม่มีใครสนใจตนเองทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันกับน้องชาร์ป มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.หนองม่วง มาสอบปากคำเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ ปปส.นำกระเช้ามาเยี่ยมในขณะที่ตนเองยังอยู่ในห้องผ่าตัด คิดมากเรื่องค่ารักษาพยาบาล และการพักฟื้น สงสารลูกเมีย และพ่อแม่มาก รวมถึงยายทวดของน้องชาร์ปที่ต้องสูญเสียหลานกำพร้าไปอย่างไม่มีวันกลับ น้องชาร์ปเป็นเด็กกีชอบไฝ่รู้ ชอบเครื่องดนตรี เครื่องไฟขยายเสียงมาก ไม่น่าจะมาจบชีวิตแบบนี้
ข่าวน่าสนใจ:
นายไชยเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงของการพักฟื้นตนเองหลังจากที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ คงต้องเดือดร้อนในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะครอบครัวตนเองไม่มีเงินสำรองไว้เลย ทำให้ตอนนี้คิดมาก นอนไม่หลับ จึงอยากจะขอความเมตตาจากผู้ใจบุญช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในเบื้องต้นก่อนที่ตนเองจะหายเป็นปกติ และสามารถประกอบอาชีพได้ดังเดิมด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: