ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก นายนรินทร์ อุปอินทร์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านวอแก้ว ม.3 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เข้าไปหาของป่าและหายตัว ในเขตอุทยานขุนตาน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ทำให้จากเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ เครือข่ายกู้ภัย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ได้ร่วมกันระดมค้นหา เพื่อตามหาตัว จนกระทั่งวันที่ 3 มิ.ย.2564 นายนรินทร์ ได้กลับบ้านที่บ้านวอแก้ว ม.3 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ท่ามกลางความดีใจของญาติพี่น้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ออกตามหา ซึ่งนายนรินทร์ เล่าว่าหลังเข้าไปในป่า ปรากฏว่าเจอผี และอยู่ในป่ากับผี หาผลไม้เช่น มะม่วงป่าทานประทังชีวิต เล่าเหตุการณ์จนทุกคนเชื่อถือคิดว่าเป็นความจริง
ล่าสุดวันนี้ 8 มิ.ย.2564 ทาง พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.ห้างฉัตร ลำปางได้ออกมาเปิดเผยว่า กรณีคนหายคือนายนรินทร์ อุปอินทร์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านวอแก้ว ม.3 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้หายเข้าไปในป่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2564 และกลับบ้านเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าขณะนี้นายนรินทร์ อุปอินทร์ ได้เดินทางเข้าพบและรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนสภ.ห้างฉัตร ว่าเรื่องราวที่เกิดทั้งหมดไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องเท็จที่นายนรินทร์กุเรื่องขึ้นมาเอง ซึ่งตนได้ทำการสอบปากคำด้วยตัวเองร่วมกับพนักงานสอบสวน
ข่าวน่าสนใจ:
นายนรินทร์ รับสารภาพว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ตนกุเรื่องสร้างเรื่องที่เป็นเท็จขึ้นมาเอง วันแรกขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปนอนอยู่ในศาลาริมทางใกล้กับหนองกระทิงก็ขับรถเที่ยวในตัวเมือง มีเงินติดตัวไปประมาณ 1 พันบาท และโทรศัพท์ 1 เครื่อง อาศัยนอนตามบ่อตกปลา กับบ้านเพื่อนชื่อต้อม จนแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดไม่มีที่ชาร์จไม่สามารถติดติดต่อได้ วนเวียนอยู่ตามในเมืองและนอนบ้านนายต้อมประมาณ 5 วัน ก่อนจัดสินใจกลับบ้าน พอมาถึงบ้านทราบว่ามีญาติพี่น้องและชาวบ้านออกตามหาจำนวนมากออกตามหา จึงกุเรื่องสร้างเรื่องว่า เข้าไปหาของป่าหลงป่าอยู่ผี ความจริงไม่ได้เข้าป่า ไม่เจอผี เรื่องทั้งหมด จนทุกคนหลงเชื่อนั้นนั้นไม่เป็นความจริง สาเหตุที่กุเรื่องขึ้นมาเพราะว่ากลัวชาวบ้านต่อว่าหาว่าหลอกลวงจึงเข้าพบสารภาพและความจริง ตนอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.ห้างฉัตร ลำปางกล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา”แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อันอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนได้รับความเสียหายตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายนรินทร์ไปที่ศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: