นครศรีธรรมราช : ชาวพรหมคีรี ผวาหนัก งดบริโภคเนื้อหมู หลังฟาร์มใหญ่ในพื้นที่ติดเชื้อโรค PRRS ปศุสัตว์แจ้งทำลายด้วยการฆ่าทิ้ง-ฝังกลบยกฟาร์มกว่า 1,000 ตัว เกษตรกรปาดน้ำตา เสียหายนับล้านบาท รอเงินเยียวยาจากรัฐ 75% ตามคำสั่ง ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จากกรณีเกิดโรคระบาด PRRS ในฟาร์มหมู หลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้หมูในฟาร์มต่าง ๆ ตายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ส่งผลให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกไม่กล้าซื้อเนื้อหมูมารับประทาน ซึ่งนายสัตวแพทย์เมษยน ชีวะเสรีชล หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า โรคระบาด PRRS เกิดจากเชื้อไวรัส ยังไม่มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทย ยังไม่มีวัคซีนและยารักษา ที่พบการระบาดมากในขณะนี้ คือ ที่ตำบลปากพูน นอกจากนี้ ยังพบบ้างในอำเภอพรหมคีรีและทุ่งสง อย่างไรก็ตาม โรคระบาดนี้จะพบได้เฉพาะในหมูเท่านั้น ไม่ระบาดไปยังสัตว์อื่นหรือมนุษย์ ดังนั้น จึงยังสามารถบริโภคเนื้อหมูได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุก
ล่าสุด มีรายงานว่า ฟาร์มเลี้ยงสุกรแบบปิด ของเกษตรกรใน ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี ที่มีสุกรทุกรุ่น ทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ แม่ลูกอ่อน และที่กำลังตั้งท้อง รวมอยู่ด้วยกว่า 1,000 ตัว จะต้องถูกฉีดยาเพื่อฆ่าทิ้ง หลังเจ้าของฟาร์มพบเห็นอาการผิดปกติในตัวสุกร ระหว่างที่มีข่าวการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อ PRRS ในตัวสุกร จึงหวั่นว่าสุกรในฟาร์มจะได้รับเชื้อดังกล่าว จึงนำตัวอย่างไปให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.ทุ่งสง ตรวจ ผลปรากฏว่า สุกรในฟาร์มได้รับเชื้อ PRRS จริง จึงมีคำสั่งจากปศุสัตว์ให้ทำลายทิ้งทั้งหมด และทางฟาร์มเองก็ได้ปิดฟาร์มไม่นำสุกรออกจำหน่าย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูล แต่ได้รับการปฏิเสธ และห้ามไม่ให้บันทึกภาพจากเจ้าของสถานที่ พร้อมกับร้องขอไม่ให้นำเสนอข่าว เนื่องจากได้รับคำสั่งจากปศุสัตว์จังหวัด เกรงว่าจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากภาครัฐ ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่าล้านบาท
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะเดียวกัน ทราบว่าทางเจ้าของฟาร์มได้ว่าจ้างรถแบคโฮมาขุดหลุมเพื่อฝังกลบสุกรทั้งหมดในฟาร์ม โดยก่อนหน้านี้ สุกรทยอยล้มตายไปกว่า 400 ตัวแล้ว ที่เหลือกว่า 600 ตัวกำลังรอเวลาให้ค่อย ๆ ตายลงไปเอง รวมถึงรอให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้ามาทำลายอย่างถูกวิธี
ขณะที่มีข้อมูลออกมาจากแหล่งข่าวภายในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอให้เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน เนื่องจากเป็นนโยบายชาติ โดยท่านนายกประยุทธ์ (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) และเป็นคำสั่งของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อประเทศ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ มีหมูตายไปแล้วเช่นกัน ซึ่งความจริงในประเทศไทยขณะนี้ ก็มีหมูตายเกิดขึ้น แต่จำเป็นจะต้องปกปิดข้อมูลข่าวไว้ เพื่อให้หมูอยู่รอด ประกอบกับเศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่ เนื่องจากประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกหมู
สำหรับเกษตรกรายย่อยรัฐบาลจะชดเชย โดยนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ไปหารือกับผู้ประกอบการเลี้ยงหมูรายใหญ่ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือผู้เลี้ยงรายเล็ก ในอัตรา 75% แต่จำเป็นจะต้องไม่ออกข่าวเพื่อรักษาการส่งออก เพราะถ้าข่าวหลุดออกไปจะส่งผลกระทบ อย่างที่มีข่าวออกมาก่อหน้านี้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
รวมถึงยังเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ตื่นกลัว จนงดบริโภคเนื้อหมู ทั้งนี้ จะมีการเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อแถลงข่าว เพื่อให้สื่อมวลชนนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน และไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก จนหวาดกลัวที่จะบริโภคเนื้อหมูต่อไป
แต่ในความเป็นจริงขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่ต่างพากันหวาดกลัว ไม่กล้าซื้อเนื้อหมูมาบริโภคไม่ว่าจะมาจากแหล่งใด
อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐไม่ตรวจหาเชื้อ เพื่อแยกสุกรที่ติดเชื้อ ออกจากสุกรไม่ติดเชื้อ แต่ใช้วิธีฆ่าทำลายเสียทั้งหมดนั้น จะส่งผลให้สุกรมีชีวิตแม้ไม่ติดเชื้อก็ต้องถูกฆ่าตาย และทำให้แม่พันธุ์สุกรพันธุ์ไทยหายไป ในอนาคตอาจจะต้องใช้พันธุ์จากผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น
นอกจากนี้ ในภายภาคหน้าคนไทยอาจจะต้องซื้อเนื้อหมูในราคาที่แพง เนื่องจากถูกกำหนดราคาจากกลุ่มนายทุนใหญ่ที่ครองตลาดอยู่
ขอบคุณภาพประกอบจาก : สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: