ชัยภูมิ – ผู้ว่าชัยภูมิ ยันไม่ได้ห้ามเข้าพื้นที่แต่มาแล้วเสี่ยงต่อการนำเชื้อมาแพร่ระบาดเพิ่มในพื้นที่ ทุกคนที่มาต้องช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตามมากักตัว ควรรีบรายงานตัวแยกตัวเองกักตัวดูอาการให้ครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้อ ซึ่งจะเป็นแนวทางผ่านปัญหาล่าสุดที่ยังทำให้จังหวัดชัยภูมิ มีการพบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่จังหวัดยังไม่นิ่งได้ หลังยอดพบป่วยโควิดรายวันยังพุ่งเพิ่มไม่หยุดอีก 4 ราย ล่าสุดยังอยู่ในกลุ่มแรงงานมาจากพื้นที่เสี่ยงขอกลับบ้านช่วงลูกหลานเปิดเทอมยังเสี่ยงสูง ทุกพื้นที่ยังการ์ดตกไม่ได้!
( 15 มิ.ย.64 ) ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ล่าสุด นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีรายงานยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ในเขต อ.หนองบัวแดง 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากหลานสะใภ้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง กทม. ด้วยรถคันเดียวกันกับ ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 316 ที่ อ.คอนสาร 2 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 71 ปี และ 66 ปี อาศัยอยู่ ม.7 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร ประวัติเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันมาจากพื้นที่เสี่ยงด้วยเช่นกัน และที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 39 ปี ทำงานอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้าง เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 เดินทางกลับบ้านเพื่อช่วยดูแลบุตรหลานในช่วงใกล้เปิดเทอมใน ต.บ้านบัว อ.เกษตรสมบูรณ์ ซึ่งก็ได้รีบแยกกักตัวอยู่ที่กระท่อมในทุ่งนา ก่อนล่าสุดวันนี้ตรวจพบติดเชื้อโควิดอีกราย
ซึ่งล่าสุด ณ วันนี้ จ.ชัยภูมิ ยังมีผู้ป่วยโควิดสะสมทั้งหมด 326 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดยนายวิเชียร จันทร์โณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกรายการผู้ว่าพบประชาชน ในหัวข้อรายการคลายทุกข์หมดปัญหากับผู้ว่าวิเชียร เป็นวันแรกในวันนี้ ซึ่งต่อจากนี้ไปทางผู้ว่าวิเชียรจะเปิดเวทีรับฟังปัญหาและแนวทางช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกพื้นที่ในจังหวัดชัยภูมิในรายการดังกล่าวในทุกวันอังคารของทุกสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-11.00 น. ได้กล่าวในรายการว่า ในขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เองเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ซึ่งโดยเฉพาะในช่วงเปิดภาคเรียนนี้เป็นวันที่สองแล้ว ยังมีสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่คือ เป็นเรื่องที่จะห้ามกันไม่ได้ที่จะให้กลุ่มแรงงานที่จำเป็นจะต้องเดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยงเพื่อมาดูแลบุตรหลานในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ระบาดตามมาในช่วงเปิดภาคเรียนในขณะนี้ได้ แต่ก็ต้องให้คนที่เดินทางต้องเข้าใจด้วยว่า มาแล้วต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง หรือการกักตัว ไม่จำเป็นต้องให้ทาง จนท. อสม.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปบอกท่านให้กักตัว แต่เป็นเรื่องสำคัญที่มาแล้วทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเพราะมาจากพื้นที่เสี่ยง
และสิ่งที่ยังต้องช่วยกันติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่มาจากจังหวัดเสี่ยง ที่เริ่มกลับมาในพื้นที่ในช่วงเปิดภาคเรียนปีนี้อย่างเข้มงวดทุกรายต่อไปให้ได้ และเชื่อว่าหากทุกคนทำตามมาตรการนี้ได้แล้ว จากนี้ไปก็น่าจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดการนำเข้าเชื้อจากภายนอกเข้ามาจังหวัดชัยภูมิ ให้นิ่งลงได้แล้ว จากนี้ไปแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จะคลี่คลายลงได้จากนี้ไปโดยเร็วได้ ซึ่งยอดการฉีดวัคซีนขณะนี้เองก็ถือว่ายังน้อยเทียบจากประชากรทั้งจังหวัดกว่า 1.1 ล้านคน ล่าสุดถึงเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา มียอดฉีดไปแล้วรวม 46,804 คน แยกเป็นเข็ม 1 รวม 30,601 คน เข็ม 2 รวม 13,203 คน
