ราชบุรี ในวันนี้( 21 มิ.ย. 64 ) เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมือง จ.ราชบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมตรวจการปลูกมะขามป้อมยักษ์สายพันธุ์ต่างประเทศแห่งแรกของจังหวัด ที่บริเวณหมู่ที่ 4 ต.น้ำพุ อ.เมือง หลังจากเริ่มให้ผลผลิตเป็นปีแรก ซึ่งมะขามป้อม หลายคนคงรู้จักเพราะว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมานานแต่สมัยโบราณ รสชาติออกฝาดขมเล็กน้อย แต่เมื่อดื่มน้ำตามก็จะรู้สึกหวานชุ่มคอ มีสรรพคุณทางยามากมาย จากข้อมูลทางวิชาการของศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 พบว่ามีการใช้กระชายขาวและฟ้าทะลายโจร รวมทั้งมะขามป้อมซึ่งเป็นสมุนไพรดูแลสุขภาพ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด -19 ด้วย โดยมะขามป้อมจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัส ลดอักเสบ แก้ไอ ละลายเสมหะ
โดยที่ จ.ราชบุรี ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการปลูกมะขามป้อมยักษ์นำเข้าจากประเทศศรีลังกานำมาปลูกประมาณ 4,500 ต้น บนเนื้อที่ 43 ไร่ ของนางภารณี ผลปรีชากุล อายุ 56 ปี หมู่ที่ 4 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ปีนี้ออกผลผลิตจำนวนมาก ลักษณะของสายพันธุ์จะมีลูกขนาดใหญ่เกือบเท่าลูกปิงปอง หรือ ลูกกอล์ฟ เวลาแก่จัดผิวเปลือกจะใส ดกเกือบเต็มกิ่งจนต้องใช้ไม้ค้ำ บางต้นถึงกับต้องใช้บันไดปีนเก็บผลที่เป็นพวงห้อยระย้า แต่จากสถานการณ์เกิดโรคโควิด -19 แพร่ระบาด ส่งผลทำให้ผลผลิตที่มีจำนวนมาก ได้รับผลกระทบ มีแม่ค้ารับซื้อน้อยลง และยังมีราคาค่อนข้างถูกขายส่งเพียงกิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งตามปกติจะมีราคาดี เพราะมีผลขนาดใหญ่กลมเป็นที่ต้องการของท้องตลาด
ซึ่งนายสิริชัย วรรณโภคิน ผู้จัดการไร่ กล่าวว่า ที่ไร่ปลูกอยู่ประมาณ 4,500 ต้น ปลูกมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ในปีนี้ผลผลิตออกดกมาก ผลใหญ่ เป็นปีแรกเพราะการบำรุงดูแลดี ใช้สารเคมีตามความจำเป็น ระยะการเก็บตั้งแต่ช่วงออกดอกประมาณ 5 เดือนเป็นต้นไป 1 ปี เก็บได้ 2 รอบ สามารถบังคับให้ออกผลได้ กรณีแก่จัดเมื่อเก็บไม่ทันผลก็จะร่วงเสียหายไปบ้าง ส่วนที่เหลือคนงานเก็บนำไปคัดไซส์แยกขนาดส่งขายตลาดศรีเมือง ตลาดสี่มุมเมือง ปทุมธานี และตลาดไท นอกจากนี้ยังปลูกที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครอีก 1 แปลง ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เป็นเครือข่ายกัน ช่วงสถานการณ์โควิด -19 มีผลกระทบด้วยราคาที่ไม่ได้เหมือนปกติ และปริมาณการขายได้น้อย ทำให้เกิดการร่วงเสียหายจำนวนมาก ส่วนค่านิยมยังมีคนสนใจอยู่ แต่ด้วยสถานการณ์แม่ค้าซื้อน้อยลง การขายก็ลดลง ส่วนราคาขายไม่แน่นอน ด้านศัตรูพืชจะมีเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย เพลี้ยไฟ หนอนเจาะต้น หนอนชอนใบ การดูแลไม้ผลเหมือนปกติทั่วไป ทางไร่จะใช้สารเฉพาะช่วงที่จำเป็นเท่านั้น สำหรับมะขามป้อมก็ยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น แช่อิ่ม อบแห้ง ทำชาชง น้ำมะขามป้อม ถือเป็นพืชที่อยู่เฉพาะกลุ่มสายรักสุขภาพ ด้วยรสชาติไม่ชวนกิน ทำให้คนบริโภคมีไม่มากนัก โดยคนรักสุขภาพจะชอบเพราะมีวิตามินซีสูง
ด้านนายอดิศร สกลวิทยานนท์ ลูกชายของนางภารณี ผลปรีชากุล เจ้าของไร่คุณามัย กล่าวว่า ได้นำผลสดของมะขามป้อมมาแปรรูปเป็นน้ำมะขามป้อมสด มีมะขามป้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งสูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว ชามะขามป้อม จะใช้มะขามป้อมคั้นสดผสมกับน้ำผึ้งมะนาวแท้และมีสูตรที่เป็นชามะลิ รสชาติดื่มง่าย เข้าถึงทุกกลุ่มที่สนใจ มีสรรพคุณทางยาเยอะ มีสารต้านมะเร็งสูงมาก ทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจากสหรัฐอเมริกา เคยพิสูจน์มาแล้วว่าพืชผล 3,000 ชนิดนั้น มะขามป้อมมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงที่สุด จึงนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ตอนนี้ใช้กลยุทธ์วางตามซุ้มต่าง ๆ เน้นโรงพยาบาล เริ่มต้นจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต ที่เมืองทองธานีเป็นจุดแสดงสินค้า รวมทั้งเซนทรัลศาลายา และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ด้วยสถานการณ์โควิด -19 อาจต้องหยุดพักบูธไว้ก่อน แต่ช่วงก่อนโควิดผลตอบรับดีมาก กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้มีอายุ เพราะผู้ใหญ่จะรู้จักมะขามป้อมดี แต่กลุ่มที่ได้มาใหม่คือกลุ่มวัยทำงาน รวมถึงเด็กรุ่นใหม่ที่รู้จักประโยชน์ แต่ไม่เคยกินไม่รู้ว่ามะขามป้อมมีรูปร่างแบบนี้ แต่พอไปจัดบูธได้พบเห็นและเกิดความสนใจรู้ถึงประโยชน์ประกอบกับมีรสชาติดื่มง่าย อนาคตคิดต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปอีก ซึ่งขณะนี้ได้ทำการวิจัยกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และโรงงานแห่งหนึ่งที่สุพรรณบุรี จะมีผลิตภัณฑ์อีกคาดว่าจะออกมาช่วงปลายปีนี้เป็นน้ำมะขามป้อมที่เป็นรสชาติดื่มง่ายไม่มีน้ำตาล มีแคลอรี่ต่ำ น่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดี เพราะดื่มง่าย สุขภาพดี คุณค่าทางอาหารสูง อนาคตวางแผนเตรียมส่งขายต่างประเทศทั่วโลก
ส่วนนายธนากร กมลจรัสวัฒนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองราชบุรี กล่าวว่า ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมแนะนำเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้สามารถติดต่อช่องทางถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรได้ โดยใช้เอกสารที่เกี่ยวข้องนำไปขึ้นทะเบียน และยังให้คำแนะนำปัญหาการทำการเกษตรกรณีเกิดโรคพืช ศัตรูพืชรบกวนพื้นที่ของเกษตรกรอาจจะพบปัญหาแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ สามารถติดต่อไปที่สำนักเกษตร เพื่อเข้ามาให้คำแนะนำช่วยเหลือ ส่วนพื้นที่ตำบลน้ำพุเท่าที่ทราบจะมีที่นี่แห่งเดียวที่ปลูกมะขามป้อม ส่วนใหญ่แถบนี้จะปลูกมันปะหลัง อ้อย เป็นหลัก มีไม้ผลอย่างลำไยบางส่วน จากการลงพื้นที่มาดูการปลูกถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ผลผลิตมีขนาดใหญ่ ความเต่งของลูกดี ต่างจากมะขามป้อมที่ปลูกพบเจอตามตลาดทั่วไป
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อได้ตามเพจเฟซบุ๊ก คุนามิ ซึ่งแปลมาจากชื่อไร่คุณามัย หรือติดต่อเบอร์ 086-9892950
