อุบลราชธานี – หนุ่มอุบลฯโอดโดนแก๊ง 2 ล้อ ปาหินใส่รถเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุขณะที่ชาวเน็ตแชร์ว่อนพฤติกรรมแก๊งรถจักรยานยนต์กว่า 200 คันขับรถเสียงดังรวมกลุ่ม ยกล้อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่เกรงกลัวโควิด
ผุ้สื่อข่าวได้ลงพื้นไปพบนายเจนภพ พรมสุข อายุ 26 ปี เกษตรกรบ้านโดนก่อ เจ้าของรถกระบะโตโยต้า รีโร่ สีดำหมายเลขทะเบียน ผข 4736 อุบลราชธานี ที่ถูกกกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 7 คันปาก้อนหินใสกระจกหน้ารถขณะที่ขับสวนกันบนถนนทางหลวงหมายเลข 2172 โนนเลียง – ดอนจิก จนทำให้กระจกหน้ารถแตกเสียหาย
นายเจนภพ เปิดเผยว่าตนเองพร้อมครอบครัวขับรถออกจากบ้านไปทำธุระที่อำเภอพิบูลมังสาหาร ระหว่างทางเจอกลุ่มวัยรุ่นขับรถมาเป็นกลุ่มมุ่งหน้าไปทางอำเภอบุณฑริก จนมีวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุขับรถมาประมาณ 7 คัน หนึ่งในกลุ่มก็ปาหินใส่กระจกรถจนแตกแล้วหลบหนีไป หลังจากที่ตั้งสติได้จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นาโพธิ์ อำเภอบุณฑริก และติดต่อขอกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียง ยืนยันตนไม่รู้จักหรือทะเลาะอะไรกันมาก่อนคาดว่าจะเป็นเพราะความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นที่ไปรวมตัวในเขตพื้นที่อำเภอนาจะหลวย
ขณะที่เพจดังในจังหวัดอุบลพร้อมใจโพสต์พฤติกรรมการรวมกลุ่มของกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์รวมกลุ่มลักษณะกีดขวางการจราจร ส่งเสียงดังจนเกิดอุบัติเหตุทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ไม่เกรงกลัวต่อสถานการณ์โควิดที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ คึกคะนองปาหินใส่กระจกรถของประชาชนแตกเสียหาย ทำให้มีการต่อว่า ถึงความไม่เหมาะสมและถามหาความรับผิดชอบขากกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวหากเกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกับข้อเท็จจริงกับทราง พ.ต.อ.อดุลย์ สุรำไพ ผกก.สภ.นาจะหลวย เปิดเผยว่า ทางสภ.นาจะหลวยได้รับหนังสือจากผู้จัดงานว่าจะมีการทำกิจกรรมการกุศลมอบของบริจาคให้ ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองปลามัน ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี และจะเดินทางเข้าไปเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมาซึ่งทาง สภ.นาจะหลวย ได้รับเรื่องไว้และได้มีการแจ้งผู้จัดให้ไปดำเนินการขออนุญาตจัดกิจกรรมต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะดำเนินการ
เบื้องต้นทาง สภ.นาจะหลวย ได้มีการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านการจราจรตามปกติเพราะจนกระทั่งวันเกิดเหตุได้มีการรายงานว่ามีกลุ่มผู้ที่ร่วมกิจกรรมจำนวนมากจนต้องมีการเปลี่ยนแผนระบายกลุ่มวัยรุ่นออกจากพื้นที่ให้มากที่สุดเพราะทางอุทยานแห่งชาติเองก็ไม่สามารถที่จะรับได้ทั้งหมดเพราะเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคติด สามารรับได้เพียง 400 คน เท่านั้น ซึ่งจากการประสานงานทุกฝ่ายก็สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ในเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนกรณีการขับรถประมาทหวาดเสียวตนไม่เป็นแต่คงจะมีบ้างเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นแต่ขณะนั้นเราไม่สามารถจะดำเนินการจับกุมได้เพราะสถานการณ์เปราะบางมาก ส่วนเรื่องการฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อนั้น หากทางคณะกรรมการเห็นว่าเป็นความผิดสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอน
ด้านนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่าเบื้องต้นทางอำเภอได้มีการรายงานขึ้นมาแล้วเป็นการรวมกลุ่มทำกิจกรรมการกุศล ให้มีการสอบสวนพื้นที่เฝ้าระวังเพราะตอนนี้เป็นพื้นที่ต้องจับตาเฝ้าระวังคลัสเตอร์แรงงานเดินทางกลับมาในพื้นที่และมีการติดเชื้อในพื้นที่ ตนจึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคัดกรองเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ส่วนการผิด พรบ.ควบคุมโรคหรือไม่นั้นรอรายงานข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขอบคุณภาพ/มีด่านบอกด้วย อุบลราชธานี / วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: