X

อยู่กรุงมีสิทธิ์เดทสะมอเร่ พบเพิ่ม 3 รายเผ่นกลับบ้านรักษาโควิด

นครพนม – อยู่กรุงมีสิทธิ์เดทสะมอเร่ พบเพิ่ม 3 รายเผ่นกลับบ้านรักษาโควิด ผวจ.นครพนม ขันน๊อตนายอำเภอ เชิญประชาชนเป็นกำแพงมนุษย์ ร่วมเฝ้าระวังผู้เข้าหมู่บ้าน เตรียมตั้งครู-นักเรียนโควิดกรองเพื่อนในห้อง

วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ และ นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด ว่า มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย เป็นรายที่ 150-152 ของจังหวัด รวมยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 152 รักษาหายแล้ว 140 ราย กำลังรักษาอยู่โรงพยาบาล 10 ราย เสียชีวิต 2 ราย

นายแพทย์ สสจ.นครพนม กล่าวว่า ผู้ป่วยรายที่ 150 เพศชายอายุ 35 ปี และผู้ป่วยรายที่ 151 เพศหญิงอายุ 33 ปี เป็นสามีภรรยากันภูมิลำเนาอยู่อำเภอโพนสวรรค์ ทั้งคู่ทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ย่านห้วยขวาง กทม. วันที่ 14 มิถุนายนรับแจ้งจากไซต์ก่อสร้างว่ามีคนงานติดโควิด ประกอบกับตนเองมีอาการไอ มีเสมหะ ครั่นเนื้อครั่นตัวจึงพากันตรวจ Rapid Antigen Test ณ จุดตรวจห้วยขวาง ผลออกมาติดโควิดทั้งคู่ จึงหารือกันว่าหากรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่รู้ว่าจะได้คิวเตียงว่างวันไหน ความหวังจะได้รับการรักษาเลื่อนลอย หนทางเดียวที่จะอยู่รอดคือกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครพนม ทั้งสองจึงเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกลับภูมิลำเนา และได้แวะไปรอคิวตรวจยืนยันผลอีกครั้งที่ รพ.โพนสวรรค์

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 152 เพศชายอายุ 61 ปี ชาวอำเภอปลาปาก พักอาศัยอยู่กับลูกหลานย่านบางขุนเทียน กทม. มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยโควิดคือลูกสาว จึงมั่นใจว่าตนเองได้รับเชื้อจากลูกสาวด้วย ตัดสินใจเดินทางกลับจังหวัดนครพนมด้วยรถยนต์ส่วนตัว แล้วเข้าพบแพทย์เข้ารับการตรวจ Rapid Antigen Test เบื้องต้นผลออกมาเป็นลบ แพทย์เก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยันหาเชื้อด้วยวิธี RT PCR จึงพบว่าติดเชื้อโควิดดังกล่าว

นพ.มานพ ฉลาดธัญยกิจ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 10 ราย มีอาการเล็กน้อย 1 ราย ส่วนที่เหลือไม่มีอาการแต่อย่างใด และถือว่าผู้ป่วยที่พบล่าสุดทั้ง 3 รายนี้ มีความรับผิดชอบต่อสังคมที่ไม่ยอมไปคลุกคลีสัมผัสกับใคร เพราะรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองมีติดเชื้อโควิด เมื่อเดินทางออกจากกรุงเทพฯก็ตรงดิ่งมารอแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที จึงไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม กล่าวเสริมว่าปัจจุบันมีประชาชนที่ไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงสูงเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ติดเชื้อโควิดมีความต้องการกลับบ้านเพื่อรักษาตัวเอง เพราะตามภาพข่าวจะเห็นมีคนป่วยกางเต็นท์อยู่หน้าแฟลตเพื่อรอเตียงโรงพยาบาลว่าง เขาไม่มีรู้ว่าจะได้รับการรักษาตอนไหน จึงจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านเกิด ซึ่งกรณีเช่นนี้จะไปห้ามไม่ให้เขาเข้าบ้านตัวเองคงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีความรับผิดชอบต่อสังคมก็ไม่ต้องเข้าบ้าน แต่ต้องรีบไปพบแพทย์ก่อนเป็นอันดับแรก

“วันประชุมพรุ่งนี้(23 มิย.) ผมจะเชิญนายอำเภอทุกอำเภอมาขันน๊อต เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ถ้าเขาจะเข้ามาในพื้นที่นครพนมต้องเข้าสู่ระบบ คือกักตัวเอง 14 วัน และอย่ารีบเข้าบ้านทันทีต้องรับการตรวจค้นหาเชื้อในเชิงรุก จนมั่นใจว่าไม่มีเชื้อ นครพนมไม่มีกำแพงเมือง แต่จะเชิญชวนประชาชนมาเป็นกำแพงมนุษย์ ร่วมกันเฝ้าระวังสอดส่องผู้เดินทางเข้าหมู่บ้าน ถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่ไปรายงานตัวต่อผู้นำชุมชน หรือ อสม.ประจำหมู่บ้าน ต้องรีบแจ้งให้ทางจังหวัดทราบทันที”

นอกจากนี้ ผวจ.นครพนม ยังได้กล่าวถึงผู้ที่รู้ตัวว่าเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ช่วงนี้ลูกหลานเปิดเทอม ถ้าไม่มั่นใจอย่ากอดหอมเขา ต่อให้คิดถึงอย่างไรอดใจไว้ก่อน เพราะจะต้องผ่านการกักตัวตามมาตรการฯ 14 วัน ยิ่งบ้านไหนมีเด็กเล็กไม่ควรกักตัวเองอยู่ในบ้าน ต้องไปกักตัวในสถานที่ที่ทางจังหวัดจัดให้เท่านั้น ส่วนเรื่องการบริหารจัดการในสถานศึกษา เตรียมตั้งครูโควิดในการคัดกรองโดยเฉพาะ และอาจมีนักเรียนโควิดเพื่อสังเกตเพื่อนในชั้นเรียนว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ ถ้าพบต้องแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบทันที

“แม้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม จะผ่อนคลายมาตรการบางอย่างเพื่อให้พี่น้องประชาชนใช้ชีวิตปกติมากที่สุดก็ตาม ช่วงวันหยุดในนครพนมมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มขึ้น เราก็ต้องเซฟคนในพื้นที่ด้วย ผมจะเชิญผู้บริหารโรงแรมมาพูดคุยกัน ในการเฝ้าระวังตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัด เราอย่าชะล่าใจเด็ดขาดฯ” ผวจ.นครพนม กล่าว.

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน