เพชรบูรณ์-รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ติดตามกิจกรรม “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และโครงการเพชรบูรณ์ชนะ (โควิด-19) ล้อมรักครอบครัวล้อมรั้วชุมชน
เวลา 09.00 น.วันที่ 22 มิถุนายน นายรองสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง และโครงการเพชรบูรณ์ชนะ(โควิด-19) ล้อมรักครอบครัวล้อมรั้วชุมชน” ณ พื้นที่โครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายพ่อขุนผาเมือง ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ บูรณาการขับเคลื่อนโครงการเพชรบูรณ์พอเพียง ด้านความมั่นคงด้านอาหาร ปลูกผักกินเอง ซึ่งเป็นการขยายผลการน้อมนำแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเป็นการแก้ไขปัญหา ผลกระทบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของประชาชน
สำหรับกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยคณะกรรมการพัฒนาสตรีตำบล (กพสต.) ตำบลละ 10 คน รวม 1170 คน คณะกรรมการ พัฒนาสตรีอำเภอ/จังหวัดจำนวน 11 คนเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ/จังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเพชรบูรณ์รวมกลุ่มเป้าหมายจำนวน 1246 คน โดยได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนเงิน 200,000 บาท โดยมีนายนิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์และพ.อ.กิดากร จันทรา รองผบ.พล.ม.1 เข้าร่วม จากนั้นนายสุรศักดิ์ได้เป็นประธาน Kick off เปิดการปลูกผักทั้งที่โครงการทหารพันธ์ดีฯและในทุกตำบลจำนวนรวม 118 แห่งผ่านทางแอฟพลิเคชั่น zoom พร้อมกัน นอกจากนี้ยังฝีกอบรมให้ความรู้เพิ่ม ศักยภาพผู้นำสตรีเกี่ยวกับหลัก กสิกรรมธรรมชาติและการพึ่งตนเองในสถานการณ์โควิค การประยุกต์หลักทฤษฎีใหม่สู่โคกหนองนาโมเดล
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาชุมชนได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน และได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ในเรื่องของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะการปลูกผักสวนครัวตามนโยบายโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ซึ่งขยายผลโดยอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ได้นำมาเป็นนโยบายและกระจายไปทั่วประเทศ จนปัจจุบันได้มีฐานข้อมูลรายงานว่า 11 ล้านครัวเรือน ปลูกพืชหรือผัก สร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้กับตัวเองและมีการขยายผลกัน โดยโครงการนี้ทางกรมพัฒนาชุมชนมีความภาคภูมิใจ ได้ทำงานกับทุกภาคส่วนและกระจายลงสู่พี่น้องประชาชน และการดำเนินดังกล่าวทสงอธิบดีฯได้ดำเนินการก่อนที่ covid จะมา จึงทำให้ทันต่อสถานการณ์โควิดพอดี
///
