ราชบุรี ในวันนี้ ( 22 มิ.ย.64 ) จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Aoo Naksong มูลนิธิปวีณา และ เพจกระจกเงา ได้ออกประชาสัมพันธ์ให้ช่วยตามหา ด.ญ. ชโรชา แอบเสมา น้องโมเดล อายุ 4 ปี เป็น ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ และ ด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ น้องนาเดีย อายุ 2 ปี ลูกของน.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี ซึ่งฝากให้ นางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว หรือ เจี๊ยบ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ เลี้ยงดู หลังพี่สะใภ้กับลูกสาวได้หายออกจากบ้านไปทั้งหมด 4 คน ซึ่งประกอบด้วย นางรุ้งลาวัลย์ ลูกสาวของนางรุ้งลาวัลย์ และเด็กน้อย 2 คน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมาซึ่งไม่สามารถติดต่อได้เลย และล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ไปพบตัวพี่สะใภ้ ซึ่งไปขอเช่าห้องอยู่ในพื้นที่ ตำบลบึงสามพัน อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ได้เข้าทำการสำรวจบุคคลที่ไปจากพื้นที่เสี่ยง และทางเจ้าของห้องเช่าได้ทำการแจ้งให้ผู้นำชุมได้รับทราบ ประกอบมีข่าวเรื่องของบุคคลหาย ซึ่งพบว่ามีชื่อและรูปร่างลักษณะนั้นตรงกับที่มีการประกาศแจ้งคนหายไว้ ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จึงได้เข้าไปพูดคุยพร้อมกับซักถามเรื่องราว โดยพบว่านางรุ้งลาวัลย์อยู่กับ ด.ญ. ชโรชา แอบเสมา และลูกสาวของพี่สะใภ้เท่านั้น ส่วนด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ น้องนาเดีย อายุ 2 ปี นางรุ้งลาวัลย์ก็ให้การรับสารภาพว่า น้องนาเดีย จมน้ำในคลองซีเมนต์ ที่อยู่ข้างบ้านตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.64แล้ว ก่อนจะนำศพไปฝังและพาลูกสาวกลับหลานสาวอีกคน หลบหนีไปเพราะกลัวความผิด ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบและมีการประสานงานกันจนทำให้ทราบว่า ศพของน้องนาเดีย นั้นถูกฝังที่บริเวณไร่อ้อย หมู่ที่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี จึงได้ไปทำการขุดหาพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.โพธาราม ก็พบศพน้องนาเดียถูกห่อหุ้มด้วยกระสอบปุ๋ย และฝังอยู่ในดินลึกประมาณ 50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขุดขึ้นมาเพื่อนำไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่สถาบันนิติเวช โดยเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหากับนางรุ้งลาวัลย์ พี่สะใภ้ใจโหด ซ่อนเร้นทำลายศพ ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้นจะต้องให้แพทย์ชันสูตรศพเด็กก่อนว่าตายจากสาเหตุอะไร ส่วนตัวของนางรุ้งลาวัลย์กับเด็กๆ อีก 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.โพธาราม กำลังไปนำตัวกลับมาทำการสอบสวน
จาการสอบถามนายรุ่งเรือง พุ่มบัว อายุ 67 ปี พ่อของนางรุ้งลาวัลย์ ก็บอกว่า ลูกสาวของตนนั้นรักหลานสาวสองคนมาก เลี้ยงดู ป้อนข้าว ป้อนน้ำมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนไม่ทราบเรื่อง แต่มารู้ว่าลูกสาวไม่อยู่บ้านในช่วงเย็นวันที่ 16 มิ.ย. ซึ่งลูกสาวโทรมาบอกว่า พาลูกกับหลานสาวไปเที่ยวทะเล แล้วรถประจำทางหมดก็เลยยังกลับไม่ได้ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งแม่ของเด็กทั้งสองคนมาสอบถามว่าลูกสาวหายไปไหน ตนก็เลยพยายามช่วยติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้เลย และมาทราบข่าวว่าลูกไปอยู่ที่จ.เพชรบูรณ์ เพราะหนีความผิดเนื่องจากนำหลานคนเล็กที่อ้างว่าจมน้ำตายไปฝังดินไว้ ก็ตกใจมากและอยากจะถามลูกสาวว่าทำไม ไม่บอกพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเพราะเรื่องที่เด็กจมน้ำถือเป็นอุบัติเหตุ ก็จะได้ช่วยกันแก้ไขได้ ไม่น่าจะทำแบบนี้ แต่เมื่อลูกผิดจริงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนนางยุพา คลังนาค อายุ 62 ปี ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของป้าสะใภ้ใจร้าย ก็บอกว่า ตนรู้จักกับนางรุ้งลาวัลย์มานานและพาเด็กๆ มาซื้อของกินที่ร้านเป็นประจำ ก็เห็นว่ารักเด็กสองคนนี้มาก เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนตัวนางรุ้งลาวัลย์เป็นคนนิสัยดี พอมารู้ข่าวก็ตกใจมากไม่เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ส่วนน.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี แม่ของ น้องนาเดีย ที่ตายก็บอกว่าพอรู้ข่าวก็เสียใจมาก เรื่องที่พี่สะใภ้บอกว่าลูกจมน้ำตายอาจจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ทำไมต้องนำลูกไปฝังและไม่ยอมบอกใคร ที่ผ่านมาฝากให้เลี้ยงดูลูกเพราะไว้ใจ แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์กับลูกแบบนี้ ซึ่งในช่วงแรกรู้ว่าลูกจมน้ำแต่ยังมีลมหายใจแล้วทำไมไม่ช่วยลูก พอตายแล้วก็ยังเอาไปฝังอีก แล้วพาลูกอีกคนหนีไป ซึ่งในเรื่องนี้ทางตำรวจกำลังทำการสอบปากคำพี่สะใภ้อยู่ และคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายด้วย
ด้านนายอำพล ลือบางใหญ่ พ่อของน้องนาเดีย ก็บอกว่าที่ผ่านมาก็รับรู้มาบ้างว่าลูกน่าจะถูกกระทำ หรืออาจจะเป็นเพราะลูกดื้อ แต่ก็ไม่ได้รับฟังมาโดยตรง แต่มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าในลักษณะนี้หลายครั้ง แต่เนื่องจากแม่ของเด็กนั้นไว้ใจป้าสะใภ้คนนี้มาก จึงต้องปล่อยไป แต่ในช่วงที่ลูกหาย ตนก็มาถามกับญาติๆ ของพี่สะใภ้ ก็ไม่มีใครพูดอะไร บอกอย่างเดียวไม่รู้ จนมารู้ว่าลูกจมน้ำ ก็ยังไม่มีใครบอกอีกว่าลูกตาย แล้วศพอยู่ที่ไหน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกตายนั้นต้องการพิสูจน์ว่าจริงแล้วมีสาเหตุมาจากอะไร และคงจะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย
