ชัยภูมิ – โรคลัมปีสกินยังระบาดหนักต่อเนื่อง พบวัวในพื้นที่เริ่มป่วยแล้วกว่า 2,200 ตัว ล้มตายแล้วกว่า 66 ตัว จังหวัดเร่งหาแนวทางช่วยสกัดการระบาดยังหนัก ซึ่งปัจจุบันชาว จ.ชัยภูมิ มีการเลี้ยงวัว ควายทุกประเภท มากเป็นอันดับ 6 ของภาคอีสาน มีมากกว่า 1 แสน 2 หมื่นตัว ด้านวัคซีนที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพจากกรมปศุสัตว์ ยังจัดหามาช่วยฉีดป้องกันโรคให้เพียงพอได้ ต้องเร่งใช้สมุนไพรไล่แมลงแทน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แมลงเป็นพานะนำเชื้อมากัดวัว ควายที่เลี้ยงไว้ แพร่โรคให้ระบาดหนักไปมากกกว่านี้ได้อีกทาง!
(24มิ.ย.64) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกิน ระบาดหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ที่วัดโคกสว่าง บ้านห้วยบง ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานปล่อยแถวคลิกออฟจัดงานรณรงค์ควบคุม ป้องกันและกำจัดโรคลัมปีสกิน (Lumpy Skin Disease) หลังจากในขณะนี้ โรคลัมปีสกิน ในทั่วประเทศไทยพบมีการแพร่ระบาดขยายวงกว้างแล้วใน 56 จังหวัด
รวมทั้งจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งถือว่าปัจจุบันชาว จ.ชัยภูมิ มีการเลี้ยงวัว ควายทุกประเภท มากเป็นอันดับ 6 ของภาคตะวันออกฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มีมากกว่า 1 แสน 2 หมื่นตัว พบมีการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินทั้ง 16 อำเภอจังหวัดชัยภูมิแล้ว มีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโค(วัว) กระบือ(ควาย) ได้รับความเดือดร้อนจากวัวตายแล้วร่วม 1,120 ราย มีวัวป่วยสะสมทั้งหมด 2,229 ตัว วัวตายสะสมแล้ว 66 ตัว มากที่สุดในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ สาเหตุที่ทำให้โรคมีการแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว คือการเคลื่อนย้ายโค กระบือ มีชีวิตจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไปยังพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งยังพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกินที่ไม่ได้มีการตรวจสอบคุณภาพจากองค์การอาหารและยา เกษตรกรส่วนใหญ่มีการนำมาฉีดเอง และเกิดการแพร่ขยายพันธุ์ของแมลงดูดเลือดอย่างชุกชุมในช่วงฤดูฝนนี้ตามมาอีกจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งในส่วนของ จ.ชัยภูมิ ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนที่ได้คุณภาพและได้มาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ มาให้ได้เพียงพอ จึงยังทำให้แนวโน้มการเกิดโรคลัมปีสกิน ในจังหวัดชัยภูมิ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้
ซึ่งการป้องกันไม่ให้วัว ควายที่เลี้ยงไว้ ไม่ให้ป่วยด้วยโรคลัมปีสกิน ในขณะนี้ทางจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการลงไปช่วยเหลือแนะนำเกษตรกรให้เร่งดำเนินการกำจัดแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นยุงลาย แมลงวันคอก เห็บ และเหลือบ ภายในที่เลี้ยง มีทั้งการให้ความรู้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว และควาย พร้อมทั้งสาธิตการใช้สมุนไพรในการไล่แมลง การมอบเวชภัณฑ์ในการกำจัดแมลง พร้อมทั้งมีการจัดรถ Mobile ออกฉีดพ่นยากำจัดแมลงและฆ่าเชื้อโรคในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ คอกสถานที่เลี้ยงต่างๆของเกษตรกร อย่างต่อเนื่องในขณะนี้เป็นการด่วนทุกพื้นที่แล้ว
โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า การใช้วัคซีนควบคุมโรคลัมปีสกิน ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดในประเทศไทย มีความจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง และติดตามผลหลังการใช้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกินจากกรมปศุสัตว์มาเพียงพอได้ แต่พบว่ามีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว หาซื้อวัคซีนป้องกันโรคคลัมปีสกินมาใช้กันเอง ซึ่งนับว่าเสี่ยงที่อาจทำให้วัว ควายที่ฉีดวัคซีนจะมีผลข้างเคียงถึงตายได้
หลังจากนี้ไปการป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ การกำจัดพาหะแมลงดูดเลือดด้วยการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงให้บ่อยครั้งมากขึ้น และใช้สารกำจัดแมลงละลายน้ำ ฉีดพ่นบริเวณตัวสัตว์และบริเวณคอกในฟาร์มอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการใช้สมุนไพรในการไล่แมลง ซึ่งสมุนไพรที่ใช้จะมีทั้งสะเดา ใบหน่อยหน่า ตะไคร่หอม ใบยูคา ใบสาบเสือ และขมิ้น ที่ยังสามารถหาในพื้นที่ตามหมู่บ้านต่างๆ ได้เพียงพอ แล้วนำมามัดรวมกันต้มน้ำให้เดือดจนออกสีชา และกรองน้ำใส่เครื่องฉีดพ้นตามพื้นที่คอกเลี้ยงวัว ควาย และทาลำตัววัวที่เป็นตุ่มพอง จะช่วยรักษาสัตว์ป่วยได้ รวมทั้งลดปัญหาโรคไข้เลือดออกในคนได้อีกด้วย
เช่นเดียวกับนายหวล ฝ่ายประสิทธ์ อายุ 54 ปี เกษตรกรเลี้ยงวัว ชาวบ้านห้วยบง ต.ห้วยบง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บอกว่าตนเองได้เลี้ยงวัวอยู่ 24 ตัว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา วัวที่เลี้ยงไว้มีบางตัวมีไข้สูง และมีตุ่มขนาดใหญ่ขึ้นตามผิวหนังทั่วตัววัว น้ำลายไหล และมีขี้ตา ตนเองได้ใช้สมุนไพร่ที่มีมาตั้งแต่โบราณทั้งสะเดา ตะไคร่หอม ใบยูคา ใบสาบเสือ และขมิ้น มัดรวมกันต้มน้ำให้เดือดจนออกสีชา และกรองน้ำใส่เครื่องฉีดพ่นตามพื้นที่คอกเลี้ยงวัว ควาย และทาลำตัววัวที่เป็นตุ่มพองของวัวไม่กี่วันวัวของตนได้หายป่วย ซึ่งเป็นสมุนไพร่ที่ใช้ในการดูแลรักษาวัวป่วยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันโรคในครั้งนี้ได้อีกทาง
และอย่างไรก็ตามทางปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ ยังต้องฝากย้ำเตือน เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ควายตามพื้นที่ต่าง ๆ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโดยเคร่งครัด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ หรือซากสัตว์เข้าออก จ.ชัยภูมิ เว้นแต่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคและลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ดูแลสัตว์ของท่านให้มีสุขภาพแข็งแรง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดที่สำคัญ กำจัดพยาธิ ทั้งนี้ หากพบสัตว์ป่วยหรือตายไม่ทราบสาเหตุ อย่านำไปจำหน่าย ให้รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อให้การช่วยเหลือและตรวจสอบโดยเร็วที่สุด หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ หมายเลขโทรศัพท์0 – 4481 – 2334 ต่อ 13 หรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ได้ทันทีจากนี้ไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: