ทหารมณฑลทหารบก ที่ 15 จ.เพชรบุรี เดินทางไปช่วยเหลือ ยายเล็กวัย 82 ปีชาวบ้านพงษ์ประศาสน์ ที่อาศัยอยู่ริมคลองบางสะพาน ซึ่งถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย อาศัยอยู่เพียงคนเดียวไม่มีครอบครัว โดยได้นำข้าวกล่อง และถุงยังชีพสภากาชาดไทยไปมอบให้ พร้อมให้กำลังพลเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านพัก และให้แพทย์ กองบิน 5 ตรวจสุขภาพพบว่ามีความดันสูง อย่างไรก็ตามได้รวบรวมข้อมูลเสนอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบางสะพานต่อไป
วันที่ 12 พ.ย.2561 พลตรีกัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.มทบ.15 จ.เพชรบุรี พร้อมกำลังพลทหารมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี นำคณะแพทย์จากกองบิน 5 เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 209/33 หมู่ 1 ต.พงษ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้านหลังนี้ติดกับถนนเส้นบ้านหนองหัดไท-วัดถ้ำเขาม้าร้อง และใกล้คลองบางสะพาน เป็นบ้านของยายเล็ก นางสาวบุญยิ่ง พาณิช หรือยายเล็ก ในวัย 82 ปีซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่มีครอบครัว ญาติ พี่น้อง ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม ยายเล็กบอกว่า อยู่ที่อำเภอบางสะพานมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนี้ ยายก็จะถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนทุกครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน เพราะมีบ้านหลังนี้เหลือยู่เพียงหลังเดียว อาศัยอยู่ตามลำพัง
ทันที่ซึ่งทหารมณฑลทหารบกที่15 จังหวัดเพชรบุรี .เพชรบุรี ตลอดจนแพทย์จากองบิน 5 และเจ้าหน้าที่ทหาร กำลังพลจิตอาสา พร้อมสื่อมวลชนเดินทางเข้าไปหาที่บ้านพัก ยายเล็กถึงกลับยกมือสวัสดี ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมและนำข้าวกล่อง น้ำดื่มมาให้รับประทาน รวมทั้งถุงยังชีพจากสภากาชาดไทย ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีการมอบถุงยังชีพให้กับผู้เดือดร้อนจากอุทกภัยนั้น ยายเล็กบอกว่าวันนี้ยังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เช้ามาแล้ว แก่แล้วไม่รู้จะออกไปยังไง ต้องเก็บข้าวของทำความสะอาดบ้าน เพราะถูกน้ำท่วมทรัพย์สินเสียหาย ทั้งที่นอน หมอน ผ้าห่ม ต้องนำมาผึ่งตากแดด นอกจากนั้นหม้อหุงข้าวก็ถูกน้ำพัดหายไป เป็นสิ่งที่อยากได้มากในขณะนี้
โดยทางพลตรีกัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.มทบ.15 ได้ให้ทหารไปซื้อหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก นำมาให้ยายเล็กไว้หุงข้าว รวมทั้งแพทย์จากกองบิน5 ได้ตรวจสุขภาพและวัดความดัน ซึ่งพบว่าความดันของยายเล็กสูงมาก ถึงแม้จะแจ้งว่าจะพาไปรักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งเปิดให้บริการเป็นวันแรกแล้วก็ตาม แต่ยายเล็กก็ยืนยันว่าไม่ไป พร้อมกันนี้ทางทหารได้แจ้งให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือยายเล็กต่อไป และพร้อมให้กำลังพลช่วยทำความสะอาดบ้านพัก ส่วนเส้นทางได้แจ้งให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาซ่อมแซมให้
อย่างไรก็ตามยังได้เดินทางไปยังบริเวณบ้านพักของนายโสภณ ยมลักษ์ วัย 53 ปี ชาวบ้านตำบลพงษ์ประศาสน์ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในสวนมะพร้าว ริมคลองบางสะพาน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหนัก ผนังบ้านได้ถูกน้ำซัดพัง รวมทั้งข้าวของ ทรัพย์สิน จมน้ำได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งภายในบ้านพักยังมีดินโคลนที่ถูกน้ำพัดเข้าไป ตลอดจนพื้นที่ทางการเกษตรบริเวณดังกล่าวก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยนายโสภณ บอกว่าเมื่อกรมชลประทาน เข้ามาขุดลอกขายคลองบางสะพาน และมีการสร้างพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยที่ฝั่งที่ตนเองอาศัยอยู่ติดกับคลองบางสะพาน แต่ยังไม่มีการสร้างพนังกั้นน้ำ ทำให้ครั้งนี้กระแสนน้ำที่ไหลมาอ่างรวดเร็วมากกว่าปีที่ผ่านมา ได้ไหลทะลักเข้ามาในบริเวณบ้านที่อยู่ริมคลองบางสะพาน จนเสียหายในครั้งนี้ พร้อมกันนี้ทหารมณฑลทหารบกที่ 15 ได้มอบถุงยังชีพของสภากาชาดไทย พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อนำไปแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขต่อไป
เบื้องต้นอำเภอบางสะพาน ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 8-11 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 7 ตำบล 71 หมู่บ้าน มีราษฎรที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 8,736 ครัวเรือน รวม 16,975 คน ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างจัดทำข้อมูล
ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง
