คนงานไทยการ์เมนรวมตัวประท้วงไม่ทำงานหลังพบเพื่อนร่วมงานติดเชื้อจำนวนมากแต่โรงงานกับไม่ยอมปิดเพื่อทำความสะอาดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 มิถุนายน 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบที่บริษัท ไทยการ์เมนเอ๊กซปอร์ต จำกัด ริมถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีคนงานหลายร้อยคนไม่ยอมเข้าทำงาน เนื่องจากมีเพื่อนร่วมงานติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก แต่ทางบริษัทไม่ยอมปิดโรงงานเพื่อทำความสะอาดฉีดฆ่าเชื้อ คนงานที่ประท้วงเกรงว่าถ้าเข้าไปทำงานแล้วอาจจะติดเชื้อที่แพร่กระจายอยู่ในโรงงาน
ข่าวน่าสนใจ:
ก่อนหน้านี้หลังพบคนงานมีอาการคล้ายติดเชื้อโควิด จำนวน 1 ราย ทางโรงงานได้พาตัวไปตรวจหาเชื้อปรากฏว่าคนงานดังกล่าวติดเชื้อโควิดจริง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอปากเกร็ด เข้ามาตรวจหาเชื้อซึ่งการตรวจรอบแรกออกมาเมื่อที่ 27 มิ.ย.พบคนงานติดเชื้อกว่า 60 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายไปกักตัวที่รพ.สนามทั้งหมดแล้ว ส่วนรอบสองผลจะออกในวันนี้ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะพบอีกกี่ราย ทำให้วันนี้ทางคนงานทั้งหมดไม่ยอมเข้าทำงานพากันนั่งจับกลุ่มอยู่ที่ด้านนอกแผนก เพราะเห็นว่าทางบริษัทไม่มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เกรงว่าถ้าเข้าไปทำงานแล้วอาจจะได้รับเชื้อก็เป็นได้ จึงพร้อมใจกันประท้วง
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอปากเกร็ด กองสาธารณสุขเทศบาลนครปากเกร็ด รวมทั้งกอ.ร.มน.จังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าไปพูดคุยกับทางผู้บริหารของบริษัทเพื่อจะหาข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) คนงานของบริษัทกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนงานมีอาการเข้าข่ายสงสัยติดเชื้อโควิดทางเจ้าหน้าที่จึงได้พาไปตรวจสรุปผลออกมาเป็นบวก จึงทำการตรวจหาเชื้อจากพนักงานทุกคนรอบแรกตรวจพบคนติดเชื้อกว่า 60 คน ส่วนรอบสองผลยังไม่ออก พวกเราเกรงว่าถ้าเข้าไปทำงานเราต้องสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานซึ่งก็ยังทราบว่าใครติดเชื้อบ้าง แล้วถ้าเราติดเชื้อแล้วนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนในครอบครัวมันจะยิ่งขยายวงกว้างไปใหญ่ เราจึงอยากให้ทางบริษัทมีการให้หยุดงานไม่จำเป็นต้องเป็น 14 วันก็ได้ แค่เพียง 7 วันก็พอเพราะถ้าหยุดหลายวันทุกคนก็เดือดร้อน แล้วระหว่างที่หยุดงานก็ให้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยก็ให้กลับเข้ามาทำงานได้ ตอนนี้พวกเราก็ใช้ชีวิตลำบาก อย่างเมื่อเช้าขึ้นรถมาคนในรถเห็นเสื้อพวกเราก็รู้ว่าทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ยังทำท่ารังเกียจเลย เนื่องจากเขาได้รับทราบจากข่าว เราก็เข้าใจเขา เพราะโรคนี้มันน่ากลัวมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: