เพชรบูรณ์-ผู้ว่าฯลั่นเพชรบูรณ์ต้องรอด ปลุกจนท.เข้มรับมือแรงงานกลับภูมิลำเนาหนักกว่าเดิม 10 เท่า รู้ทุกคนเหนื่อยแต่ปชช.คาดหวังไว้สูง
วันที่ 29 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เพชรบูรณ์ผ่านระบบแอพพลิเคชั่นซูม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากกรณีรัฐบาลสั่งปิดแคมป์คนงาน กทม.และปริมณฑล จนคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทาง 10 จังหวัดเสี่ยงกลับภูมิลำเนา โดยอาจจะมีคนเพชรบูรณ์ที่หยุดงานและไม่มีรายได้เดินทางกลับบ้านด้วย รวมทั้งผู้ที่อาจรู้หรือรู้ตัวเองติดเชื้อหรือพูดง่ายๆ อาจจะมีคนป่วย ซึ่งไม่สามารถเข้ารักษาพยาบาลในจังหวัดที่ทำงานอยู่ได้จะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ก็กลับมาบ้านเพื่อรักษา ตรงนี้ทำให้ทุกส่วนแม้กระทั่งหรือระดับนโยบายคิดว่าภายในสัปดาห์หน้า ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจจะพุ่งขึ้นในทุกจังหวัด ซึ่งไม่ใช่ที่เพชรบูรณ์เพียงแห่งเดียว ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราช่วยกันระดมสมองหามาตรการในการรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 15-20 วันข้างหน้า
นายกฤษณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้สัมภาษณ์ว่าในสัปดาห์หน้าหรือ 10 วันข้างหน้าเป็นตัวบ่งชี้ว่าเราจะเอาอยู่หรือไม่อยู่ ถ้าตัวเลขกราฟยังพุ่งขึ้นไม่หยุด เราอาจจะถึงขั้นล็อกเมืองหรือปิดเมือง แต่ถ้าแนวโน้มกราฟลดลงหรือหัวทิ่มลง ก็แสดงว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ฉะนั้นจึงคิดว่าสิ่งที่พวกเราเคยปฏิบัติกันมาแล้วและมาตรการต่างๆ ที่เคยทำกันมา ตนเชื่อมั่นในทีมงานของสาธารณสุขเพชรบูรณ์ ทีมงานนายอำเภอ,กำนันผู้ใหญ่บ้าน, อสม.ขอให้กลับมาร่วมมือร่วมใจกันอีกครั้ง ตนเชื่อและหวังว่าเราน่าจะเอาอยู่
นายกฤษณ์กล่าวว่า จากวันนี้ไปต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายเข้มข้นการปฏิบัติมากกว่าเดิมหลายสิบเท่าตัว ต้องเข้มงวดจริงๆ 15 วันหรือ 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ไปเราตัองรอด ขอให้นายอำเภอนึกไว้เลยว่าอำเภอท่านต้องรอด ต้องระดมทรัพยากรทุกอย่างทุกวิถีทางสกัดกั้นการแพร่เชื้อในครั้งนี้ให้ได้ ยอมรับว่าตัองเหนื่อยและเข้าใจทุกๆ ท่าน แต่ตอนนี้ถึงเวลาต้องเหนื่อยกว่านั้นอีก ก็ต้องช่วยกันต่อไปเพราะประชาชนมีความคาดหวังในพวกเราสูงอย่างยิ่งว่า เราจะพาผ่านพ้นวิกฤตนี้ไป เราต้องไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งกำชับให้ทุกอำเภอตั้งจึงจุดตรวจ จุดคัดกรองในหมู่บ้านทุกพื้นที่ เน้นคัดกรองคนที่มาจากพื้นทีเสี่ยงโดยให้เน้นหนักผู้ที่มากจาก 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มสุด โดยกำชับให้กักตัวจริงๆ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเราหล่ะหลวม คิดว่าเหนื่อยล้าหรือไม่เกิดขึ้นกันบ้าง แต่อย่างที่ตนบอกไปว่าตอนนี้เราต้องเพิ่มเป็น 10 เท่า จึงขอให้นายอำเภอมีการประชุมซักซ้อมทีมหมู่บ้านและตำบล โดยให้เข้มงวดทุกอย่างการกักตัวและรักษามาตรการรวมทั้งปฏิบัติการตั้งจุดตรวจจุดสกัด โดยใน 20 วันนี้ขอให้เข้มงวดเป็นพิเศษและทางกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้รายงานคนที่เข้าไปในหมู่บ้านด้วย จึงตัองบันทึกข้อมูลและให้ทุกหมู่บ้านรายงานเข้ามา
“ฉะนั้นหากพิจารณาแล้วว่าหากใช้การโฮมควอรันทีน (กักตัวที่บ้าน) มีความเสี่ยง ให้ใช้ที่กักตัวของทางอำเภอ จากที่เคยมีการซักซ้อมกันไว้แล้วให้ใช้เป็นที่กักตัว สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่กับตัวที่บ้านไม่ได้ผล โดยให้ทางท้องถิ่นช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินและค่าใช้จ่ายแต่ต้องไม่ขัดต่อระเบียบ”นายกฤษณ์กล่าว…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: