นราธิวาส-วิกฤต! เตียงรับผู้ป่วยโควิด-19 และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ รพ.สุไหงโก-ลกเกือบเต็มแล้ว ด้าน ผอ.รพ.ออกประกาศให้ผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่ฉุกเฉินงดไปใช้บริการชั่วคราว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เข้าขั้นวิกฤตโดยกลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ควบคุมสูงสุด ติดอันดับ 1 ใน 10 จังหวัดที่ถูกล็อกดาวน์
ล่าสุดโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ออกประกาศปรับมาตรการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลเพื่อให้สอดคล้องกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 30 ราย และผู้ป่วยสงสัย PUI หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ประมาณ 50 ราย
ด้านนายแพทย์บรรยง เหล่าเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก กล่าวว่า โรงพยาบาลสุไหงโก-ลกมีเตียงรองรับผู้ป่วยทั้งหมด 212 เตียง ปัจจุบันมีการเตรียมเตียงรักษาตัวสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และที่เป็น
กลุ่มเข้าข่ายผู้ป่วยสงสัย PUI และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เข้ากักตัวดูอาการ จำนวน 90 เตียง โดยเป็นห้องความดันลบ จำนวน 1 ห้องสำหรับรักษาป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ห้องพักสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการในระบบทางเดินหายใจหรือเชื้อลงปอด จำนวน 17 เตียง ส่วนอีก 72 เตียง จะเป็นผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวรอผลตรวจและสังเกตอาการ ซึ่งขณะนี้เตียงสำหรับรองรับบุคคลที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับโควิด-19 เกือบเต็มแล้ว
โดยโรงพยาบาลสุไหงโก-ลกได้ออกประกาศสถานการณ์โควิด-19 ในโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ระบุว่า ผู้ป่วยนอก ถ้ามีอาการทั่วไป โรคทั่วไป ขอให้ดูแลตัวเองเบื้องต้น หรือเข้ารับการตรวจรักษาที่ศูนย์แพทย์ใกล้ใจ 1และ 2 กรณีอาการไม่ฉุกเฉิน รุนแรง งดมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
ทางโรงพยาบาลมีความจำเป็นต้องลดการให้บริการทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และการตรวจเลือดเอ็กซเรย์ลง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรณีเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังเบาหวาน ความดัน หรือผู้ป่วยที่มีอาการคงที่สามารถติดต่อเพื่อรับยาทางไปรษณีย์โดยมีค่าบริการส่งประมาณ 50 บาทต่อครั้ง หากจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลหรือมานอนโรงพยาบาลให้ญาติมาได้ 1 คนเท่านั้น โดยห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีเข้ามาโรงพยาบาลและงดเยี่ยมทุกกรณีอย่างเด็ดขาด ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกตลอดเวลา ซึ่งประกาศนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564
นายแพทย์บรรยง เหล่าเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก กล่าวเพิ่มเติมว่า บุคลากรของโรงพยาบาลมีจำนวนจำกัดหากต้องถูกกักตัวจากการปกปิดข้อมูลของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลและผู้ที่จะเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาล ดังนั้นกรณีผู้ที่มีอาการคล้ายติดเชื้อโควิด-19 หรือมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขอให้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาห้ามปกปิดข้อมูลเด็ดขาด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: