ชัยภูมิ – ขอเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้การช่วยเหลือรับกลับบ้าน หลังเปิดสายด่วนชาวชัยภูมิไม่ทิ้งกันให้ชาวชัยภูมิ ติดโควิดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดต่ออยากให้ไปรับกลับมารักษาตัวบ้านเกิดได้สายด่วนเริ่มร้อนฉ่าโทรแจ้งล้นทะลักต่อเนื่อง อาจต้องรอคิวช้าบ้าง ทาง จนท.เร่งจัดรถไปรับต่อคิวยาวเหยียด 24 ชม.อีกจำนวนมากต่อเนื่อง!
( 3 ก.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ด้านการเร่งป้องกันสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นรายวันยังพุ่งไม่หยุดอีกต่อเนื่อง จนล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมาตรการออกมาเร่งสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ในขณะนี้โดยเร็วให้ได้ หลังเกิดคลัสเตอร์ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างตามแคมป์ก่อสร้างต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้แรงงานคนชัยภูมิที่มีจำนวนมากนับหมื่นคนต้องว่างงาน และมีจำนวนหนึ่งได้มีการเดินทางกลับภูมิลำเนามาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการคำสั่งปิดแคมป์มาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
และมีกลุ่มแรงงานหลายร้อยคนเดินทางกลับบ้านมาที่ จ.ชัยภูมิ เป็นพาหะนำเชื้อติดโควิด-19 แพร่เชื้อกับคนในพื้นที่ทั้งญาติ พี่น้อง และคนในชุมชนหมู่บ้านใกล้เคียงตามมาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการพบผู้ป่วยโควิดในพื้นที่อยู่ในขณะนี้พุ่งแล้วกว่า 150 ราย เสียชีวิตติดต่อกันถึง 3 ราย ตลอดเพียงแค่ช่วงไม่ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งล่าสุดทางจังหวัดชัยภูมิ เองได้ออกมาตรการเร่งลงมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ในกลุ่มแรงงานคนชัยภูมิ ที่รู้ตัวว่าตนเองโควิด-19 แล้ว แต่ยังคงต้องรอเตียงรองรับผู้ป่วยไม่พอในตามจังหวัดพื้นที่เสี่ยงอยู่ในขณะนี้อีกจำนวนมาก ซึ่ง จ.ชัยภูมิ พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานชาวชัยภูมิ ที่ต้องการกลับมารักษาตัวที่สถานพยาบาลตามภูมิลำเนาแต่ละพื้นที่ตนเอง ขอให้ติดต่อเข้ารับการรักษาตัวได้ที่สายด่วน (ชาวชัยภูมิไม่ทิ้งกัน) ตามโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่งตามภูมิลำเนา หรือพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ติดต่อ Call Center 098-1352870 ,098-1352907 จ.ชัยภูมิและทางจังหวัดชัยภูมิ พร้อมที่จะจัดชุดเจ้าหน้าที่ทีมรถตู้ไปรับแรงงานที่ติดโควิด-19 เพื่อมาเข้ารักษาตัวที่ จ.ชัยภูมิ ได้มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการดีกว่าปล่อยให้เดินทางกลับกันมาเองโดยไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ เพื่อหยุดการเข้ามาในพื้นที่ไม่ให้นำเข้าเชื้อโควิด-19 มาแพร่กระจายไปกับญาติพี่น้องตามมาอีกจำนวนมากให้ได้โดยเร็วต่อไปด้วย
จนถึงวันนี้เอง ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ในกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ตามหมู่บ้าน ชุมชนและคนในครอบครัวเริ่มลดน้อยลงมาได้อย่างต่อเนื่อง และจะไปเพิ่มเป็นยอดในกลุ่มพบผู้ป่วยเพิ่มตามมาอีกด้านเป็นจำนวนมากในกลุ่มการรับแรงงานที่ตรวจพบเชื้อป่วยโควิด-19 เดินทางกลับบ้านใน จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้แทน และทำให้ในวันนี้ 3 ก.ค.64 มีรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นรวม 34 ราย อยู่ใน 8 อำเภอ ในเขต อ.เมือง 6 ราย มาจาก กทม. 5 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ที่ อ.ภักดีชุมพล 2 ราย มาจาก กทม.
ที่ อ.บำเหน็จณรงค์ 5 ราย รายแรกติดจากสามีจาก กทม.มาเยี่ยม อีก 3 ราย เป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงของรายแรก อีก 1 ราย มาจาก กทม. ที่ องบ้านเขว้า 4 ราย มาจาก กทม. ที่ อ.เทพสถิต 5 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยง คลัสเตอร์(Cluster) ต.วะตะแบก 2 ราย มาจาก สมุทรปราการ 3 ราย ที่ อ.คอนสาร 3 ราย มาจาก สมุทรปราการ ที่ อ.แก้งคร้อ 3 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยง รายที่ 464 จำนวน 1 ราย มาจาก ปทุมธานี 2 ราย และที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ 6 ราย มาจาก กทม. 3 ราย นนทบุรี 1 ราย สมุทรสาคร 1 ราย
เพื่อเข้ามาอยู่ในกระบวนการรับการรักษาในสถานพยาบาล และมีการเปิดโรงพยาบาลสนาม ไว้รองรับอีกกว่า 200-400 เตียง ในพื้นที่สนามกีฬากลาง และโรงยิมสนามกีฬา อบจ.ชัยภูมิ รวมทั้งศูนย์กักตัวประจำอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านไว้รองรับเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องควบคู่กันในการ รอรับผู้ป่วยที่มาจากจังหวัดเสี่ยงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในขณะนี้แล้ว เพื่อเป็นหยุดการแพร่เชื้อให้อยู่ในวงจำกัดที่สามารถควบคุมได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในครั้งนี้ด้วย รวมขณะนี้ จ.ชัยภูมิ ยังมียอดผู้ป่วยสูงเพิ่มขึ้นรวม 522 ราย เสียชีวิต 12 ราย
ซึ่งรวมทั้งมีการรายงานความคืบหน้า หลังจาก จ.ชัยภูมิ เปิดสายด่วน พร้อมจัดเตรียมทีมรถตู้ไปรับกลุ่มแรงงานชาวชัยภูมิดังกล่าวที่ติดโควิด-19 กลับบ้านในครั้งนี้ ในขณะะนี้อาจจะเกิดปัญหาตามมาอีกจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีกลุ่มแรงงานแจ้งติดต่อเข้ามาขอให้ไปรับตัวกลับมารักษาที่บ้านเกิด ยังมีอีกจำนวนมากเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนขณะนี้อาจจะเกิดความล่าช้าบ้าง ที่ทางจังหวัดชัยภูมิ มีการจัดรถเดินทางไปรับตัวกลับบ้านกระจายอยู่ในหลายพื้นที่จังหวัดเสี่ยง ที่อาจจะรองรับได้ไม่ทันต้องรอคิวไปรับอาจจะช้าบ้างในช่วงนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชัยภูมิ ต้องทำงานกันหนักทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ประชาชนเข้าใจที่อาจจะเกิดปัญหาการจัดรถไปรับช้าบ้าง และขอให้กำลังใจ จนท.ทุกคนที่พร้อมเร่งลงไปให้ความช่วยให้กับชาวชัยภูมิทุกคนอย่างต่อเนื่องอย่างเต็มที่ทั้งหมดแล้วในขณะนี้ด้วย
