ราชบุรี ในวันนี้ ( 3 ก.ค. 64 ) คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ราชบุรี ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ของจังหวัดราชบุรี ในวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นถึง 98 ราย จากเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) พบผู้ป่วยเพิ่มเพียง 40 ราย กระจายไปในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.ราชบุรี โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันภายในจังหวัด ทางจังหวัดราชบุรีขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ไม่ควรรับประทานอาหารและใช้สิ่งของร่วมกัน หลีกเลียงการพบปะพูดคุย สังสรรค์ กับผู้ที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยง หรือเพื่อนร่วมงาน ขอให้ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีควรอยู่บ้าน หลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ที่แออัด งานเลี้ยงสังสรรค์ งานบุญประเพณี ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่เดือนเมษายน
นอกจากนี้ทางจังหวัดราชบุรี ยังได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษา หลังมีสถานศึกษาหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนเปิดการเรียนการสอนไปแล้ว แต่พอเปิดเรียนได้เพียงไม่กี่วันกลับได้รับรายงานว่า มีนักเรียนติดเชื้อโควิด -19 ทำให้ต้องเร่งดำเนินการฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในโรงเรียน พร้อมเร่งสอบสวนโรค เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันสถานศึกษาบางแห่งมีกำหนดการเตรียมเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 5 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ แต่บางแห่งยังคงรอดูดูสถานการณ์โรคโควิด -19 ให้คลี่คลายลงจึงจะเปิดเรียนตามปกติ
ด้านแพทย์หญิงมนัญญา วรรณไพสิฐกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโป่ง เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบ้านโป่งนั้น มีคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด -19 ทุกวัน บางวันมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 10-20 ราย ณ วันนี้ นอนอยู่ที่โรงพยาบาล 83 ราย ซึ่งเกือบจะเต็มศักยภาพที่โรงพยาบาลบ้านโป่งจะรับได้แล้ว และยังมีผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียูตอนนี้ทั้งหมด 6 ราย และจะต้องอุปกรณ์ เช่น เครื่องช่วยหายใจจำนวน 3 ราย มีแนวโน้มว่าจะต้องมีผู้ป่วยหนักและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้มีผู้ป่วยเป็นเด็กอายุน้อยที่สุดที่ติดเชื้อโควิด -19 เป็นเด็ก อายุ 4 เดือน ตอนนี้มีปัญหามากคือ ทั้งผู้สูงอายุ ทั้งเด็ก และคนวัยทำงานมีโอกาสที่จะติดเชื้อพอๆกัน และถ้าติดเชื้อในเด็กส่วนใหญ่ติดมาจากพ่อแม่ บางทีติดมาจากพี่ จากตา ยาย ลุงป้า ปัญหาที่พบคือ เมื่อเด็กติดเชื้อ เด็กก็จะมาอยู่กับคนที่ติดเชื้อในบ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นพ่อแม่ ตายาย และหลาน พอ ตา กับยาย เข้าห้องไอซียูแล้ว ก็จะเหลือหลานที่เป็นเด็ก ซึ่งต้องอยู่ในห้องคนเดียว หรือ มากับพ่อ แม่ โดยพ่อแม่มีอาการแย่ลง จะต้องย้ายโรงพยาบาลหรือเข้าห้องไอซียู หรือ แยกห้องกัน เด็กจะมีปัญหาคือ ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร จึงใช้วิธีการว่าให้ผู้ป่วยด้วยกันเป็นจิตอาสาที่จะช่วยเลี้ยงเด็ก ตอนนี้มีผู้ป่วยบางคนต้องเลี้ยงเด็ก 2 คน เป็นเด็กที่ไม่ใช่ญาติ ไม่รู้จักกันเลย และยังมีทั้งวัยรุ่นที่เป็นคุณหนู แต่ต้องมาอยู่กับคุณตาที่ไม่เคยรู้จักกัน และคุณตาก็มีลักษณะหลงลืม ซึ่งน้องคนป่วยนี้ก็จะต้องคอยดูแลคุณตาเพราะเป็นคนไข้ด้วยกัน ทำให้ตอนนี้เป็นปัญหามาก จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันป้องกันตนเองไม่ให้เป็นโรค เพราะหากเป็นโรคแล้วปัญหาต่างๆจะตามมามากมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงผลปฏิบัติการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” ยึดยาบ้ากว่า 400,000 เม็ด
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- พบดาวดวงใหม่ ลูกเสือโคร่งหน้าแบ๊ว
- ปราจีนบุรี สลดหนุ่ม 45 ถูกช้างป่าอ่างฤาไนทำร้ายเสียชีวิต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: