ดูเหมือนว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งพื้นที่ถูกน้ำท่วม และสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ ทรัพย์สินต่างๆโดยทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายทั้งหมด ได้นั้น แต่ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้วก็ตามแต่ปัญหาที่อำเภอบางสะพาน กำลังเผชิญอยู่นั้นคือ”วิกฤตขยะ”นับพันตันที่มีอยู่ในชุมชน รวมไปถึงขยะที่ชายหาดแม่นำพึงกว่า 50 ตันในขณะนี้
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมบางสะพาน ระหว่างวันวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำที่ท่วมเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม ประชาชน ร้านค้า สถานที่รายการต่างๆที่ถูกน้ำท่วม ได้เริ่มเก็บกวาดทำความสะอาด แต่ก็ยังมีบ้านเรือน ร้านค้าอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเร่งทำความสะอาด และข้าวของต่างๆที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย
ข่าวน่าสนใจ:
โดยชาวบ้านบางสะพาน กล่าวว่าขยะที่ถูกน้ำท่วมก็ยังคงต้องทยอยคัดแยกใส่ถุงดำ และขนออกมากองไว้หน้าบ้าน และร้านค้า เพราะขยะบางส่วนเป็นพวกโซฟาชิ้นใหญ่ ตู้ไม้ขนาดต่างๆ ที่นอน หมอน หนังสือ รวมไปถึงขยะอิเลกทรอนินิกส์ ทั้งทีวี พัดลม อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมก็ต้องนำมาวางไว้ริมถนนสายบางสะพาน-ชายทะเล รอทางเทศบาล อบต.มาจัดเก็บ ซึ่งในบริเวณย่านนี้ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของอำเภอบางสะพาน และเป็นจุดที่ถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร
ชาวบ้านบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พูดตรงกันว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่าขยะล้นเมืองบางสะพานจริงๆ และจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งเทศบาล และ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้ช่วยเร่งจัดเก็บขยะเนื่องจากขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลา 3 วันแล้วการจัดเก็บขยะก็ยังไม่ทันเพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ขยะบางส่วนจะเริ่มส่งกลิ่นเหม็น แม้ว่าขณะนี้ขยะตามบ้านเรือน และร้านค้า สถานที่ราชการต่างๆก็ยังคงนำออกมากองไว้เแทบทุกวัน
ด้านนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยอมรับว่าขยะทั้งหมดส่วนหนึ่งมาจากบ้านเรือนประชาชน ร้านค้า สถานที่ราชการ บางแห่งที่ถูกน้ำท่วม ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการประชุมและวางแผนการดำเนินการตัดเก็บขยะโดยให้ทางเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลที่รับผิดขอบพื้นที่แต่ละแห่งเริ่มเพิ่มรอบเวลาการจัดเก็บขยะในบริเวณพื้นที่รับผิดชอบให้มากขึ้น ส่วนสถานที่ทิ้งซึ่งไม่มีขณะนี้มีข้อสรุปแล้วว่าขยะในช่วงน้ำท่วมบางสะพาน สามารนำไปทิ้งในที่ทิ้งขยะในพื้นที่ขององค์การบริการส่วนตำบลชัยเกษมได้ แต่ต้องเป็นขยะที่เกิดจากน้ำท่วมเท่านั้น
ขณะเดียวกันนายประยุทธ์ แก้วน้อย ปลัดเทศบาลกำเนิดนพคุณ อำเภอบางสะพาน กล่าวยอมรับว่าปริมาณขยะล้นเมืองจริงๆจากเดิมปกติจัดเก็บอยู่วันละ 10 ตันตอนนี้ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมและน้ำลดลงจัดเก็บได้วันละกว่า 30 ตันคาดว่าจะมีขยะที่เกิดจากน้ำท่วมถึงพันต้น เนื่องจากปริมาณขยะเพิ่มขึ้นโดยขยะส่วนใหญ่จะเป็นขยะที่ได้รับความเสียหาจากเหตุการณ์น้ำท่วม และยอมรับด้วยว่าทางเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ มีรถเก็บขยะเพียง 2 คันเท่านั้น เก็บในช่วงกลางคืน และช่วงเช้าไปจนถึงช่วงเย็นมีการทำล่วงเวลา โดยปัญหาก็คือบ่อขยะของทางเทศบาลได้เต็มเนื่องจากปีที่ผ่านมาก็เจอปัญหาขยะจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมากกว่าปีนี้ถึง 3 เท่าตัว ส่วนการนำขยะไปทิ้งไว้ในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลชัยเกษมนั้น ทางเทศบาลต้องนำขยะที่เก็บได้ไปพักไว้ก่อนและรอบรรทุกด้วยรถ10 ล้อหรือรถเทรลเลอร์ไปทิ้งทีเดียว โดยคาดว่าสถานการณ์การจัดเก็บขยะในพื้นที่ของเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ชุมชน ประชากรกว่า 3,000 คนรวมทั้งต้องเก็บขยะจากโรงพยาบาลบางสะพาน
เบื้องต้นนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการประชุมหารือกับทาง พลตรีกัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.มทบ.15 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงมาตรการจัดการขยะน้ำท่วมในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมทั้ง อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย และอำเภอทับสะแก โดยะจะระดมทหาร หน่วยงานต่างๆ จิตอาสา ชาวบ้าน ฯลฯ จัดเก็บขยะในส่วนของชายหาดตลอดแนวที่พบว่าถูกคลื่นซัดขึ้นมากองอยู่บนชายหาดแม่รำพึง-บ้านปากคลองยาวกว่า 5 กิโลเมตร มีขยะหลายชนิดส่วนใหญ่เป็นเศษไม้ ท่อนไม้ มากกว่า 50 ตัน โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน นี้จะระดมการจัดเก็บในทุกอำเภอ เพราะวิตกว่าหากปล่อยไว้หลายวันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งกลิ่นที่เหม็น และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว ส่วนในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ทั้งเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ก็ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว
ขณะเดียวกันที่ชายหาแดแม่รำพึง –บ้านปากคลอง ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ทีมข่าวได้ใช้โดรนบินสำรวจแนวขยะพบว่าตั้งแต่ชายหาดแม่รำพึง-บริเวณปากคลองบางสะพาน ที่น้ำไกลลงสู่ทะเลนั้น บริเวณชายหาดยังคงมีขยะส่วนใหญ่เป็นเศษไม้ทั้งที่เป็นท่อน และเศษซากไม้ รวมทั้งขยะประเภทอื่นๆยังคงถูกคลื่นซัดอยู่บนชายหาดเป็นแนวยาว ในบางจุดยังพบว่าน้ำทะเลเริ่มเป็นสีดำและพัดพาขยะบางส่วนที่เป็นซากพืชซากต้นไม้ถูกคลื่นซัดเข้ามาที่ชายหาด
โดยนางสาวศิศิธร วงศา อายุ 16 ปีชาวบ้านปากคลอง องบางสะพาน กล่าวว่าขยะที่เห็นอยู่บนชายหาดแห่งนี้เป็นขยะที่ส่วนใหญ่มาจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อหลายวันที่ผ่านมา วันนี้ขยะยังถูกคลื่นซัดมากองอยู่ตลอดแนว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งมาจัดการเก็บขยะเหล่านี้โดยเร็วเพราะเริ่มส่งกลิ่นเหม็นและกระทบต่อสุขภาพ และอีกอย่างชายหาดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกรงจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในบริเวณหาดแม่รำพึงด้วย
เรื่อง/ภาพ วิมล ทับคง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: