นครพนม – พ่อค้าลูกชิ้นงานเข้า ผวจ.สั่งแจ้งความเอาผิด ฐานปกปิดข้อมูลญาติจากพื้นที่เสี่ยง ต้องปิดคัดกรอง 3 หมู่บ้าน เลื่อนเปิด รร.ถึงสิ้นเดือน แช่งข้าราชการหากินกับโควิด
วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.30 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อฯ นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) แถลงข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยตรวจพบผู้ป่วยยืนยันผลเพิ่มอีก 42 ราย (รายที่ 288-329) รวมยอดผู้ป่วยสะสม 329 รักษาหายแล้ว 150 กำลังรักษา 176 และเสียชีวิตสะสม 3 ราย
โดย ผวจ.นครพนม กล่าวว่า ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง 42 ราย ตามข้อมูลมาจากพื้นที่เสี่ยง 38 ราย แล้วก็พบในชุมชน 4 ราย ที่พบในพื้นที่อำเภอธาตุพนม ทีแรกมีข้อมูลพาดพิงไปถึงจังหวัดข้างเคียง จึงสั่งการให้ลงไปสอบสวนโรคก็ปรากฏว่าต้นตอมาจากกรุงเทพฯ ไม่ได้มาจากจังหวัดข้างเคียงแต่อย่างไร ผลสอบพบว่า 4 รายนี้มีญาติเดินทางมาจากกรุงเทพฯ 3 คน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง และไปแวะรับแม่ย่าที่จังหวัดศรีสะเกษมาสมทบด้วย แทนที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจก่อนเข้าหมู่บ้าน ก็ตั้งวงกันโดยไม่แจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบ ซึ่งตอนนี้คุณย่าที่อยู่ศรีสะเกษป่วยหนักถึงขั้นอยู่ห้อง ICU เพราะได้รับของฝากจากกรุงเทพฯ และทิ้งเชื้อให้คนใกล้ชิดอีก 4 รายในพื้นที่จังหวัดนครพนม ก็เป็นเหตุให้จะต้องมีการปิดพื้นที่เขต ต.อุ่มเหม้า รวม 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโสกแมว หมู่ 2 ประชากร 911 คน บ้านดอนสวรรค์(บางส่วน) หมู่ 3 ประชากร 524 คน และบ้านโชคอำนวย หมู่ 9 ประชากร 185 คน รวม 1,620 คน ต้องถูกปิดทางเข้า-ออก ไม่อนุญาตให้ไปมาหาสู่กันชั่วคราว เพื่อตรวจคัดกรองเชิงลึกหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำทุกราย
ข่าวน่าสนใจ:
- เชียงใหม่- อบจ.มอบ 10 ล.เปิดศูนย์ รับ PM2.5 ปี 68
- นายก อบจ.ระยอง ประกาศลาออกก่อนครบวาระ 1 วัน พรัอมลงชิงชัยตำแหน่งนายก อบจ.ระยอง อีกหนึ่งสมัย
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
ผวจ.นครพนม กล่าวต่อถึงการรับมือผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ว่า ตอนนี้ข้อมูลต่างๆเริ่มนิ่ง ก็สั่งให้ทุกอำเภอเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ก็เตรียมการเรื่องสถานที่กักตัวเพื่อให้มาแล้วมีที่รักษา มีที่กักตัวแน่นอน และที่สำคัญพี่น้องต้องช่วยกัน ตอนนี้ทุกจังหวัดมียอดคนป่วยเพิ่มขึ้น เราไม่มั่นใจว่าจังหวัดไหนเข้มข้นจังหวัดไหนหละหลวมฉะนั้นในช่วงนี้งดการติดต่อเดินทางดีที่สุด ยกเว้นว่าจำเป็นจริงๆ ตอนนี้เราก็ไม่ได้ประกาศห้าม เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าจังหวัดประกาศห้าม เป็นลักษณะแถลงข่าวขอความร่วมมือเพราะสถานการณ์มันหนักจริงๆ
ด้าน นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์ สสจ.ฯ กล่าวว่า มีประชาชนติดต่อขอกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิดจำนวนมากขึ้น โดยมีผลการตรวจมาเรียบร้อยแต่ไม่มีโรงพยาบาลจะรับรักษา ซึ่งเมื่อมาถึงจะรับรักษาในโรงพยาบาลทันที จึงไม่มีโอกาสเข้าไปในชุมชนแน่นอน ส่วนคลัสเตอร์ของ อ.ธาตุพนม เป็นรายที่ 290 เพศชาย และรายที่ 291 เพศหญิงอายุ 38 ปี ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคลัสเตอร์นี้ ทั้งคู่มีอาชีพทำนาแล้วก็ขายลูกชิ้นทอด ในตลาดคลองถมทั้งในพื้นที่ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และในส่วนพื้นที่ของ บ้านดอนสวรรค์ หมู่ 3 ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีประวัติของการเป็นอยู่หลักๆคือในวันที่ 22-25 มิถุนายนไปร่วมงานศพ วันที่ 26 มิถุนายนก็มีญาติมาจาก กทม. 3 คน โดยแวะรับคุณย่าที่จังหวัดศรีสะเกษมาด้วย และในคืนวันเดียวกันก็ร่วมรับประทานอาหารกับผู้ป่วยโควิด อีก 2 รายที่ป่วยก็เป็นญาติกัน ปัญหาคือผู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ไม่ได้รับการตรวจคัดกรอง หลังจากนั้นคุณย่ามาจากที่ศรีสะเกษก็ป่วยพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ประเด็นต่อมาคือเมื่อทราบว่าคุณย่าป่วยแล้ว ก็ไม่ยอมเข้ารับการตรวจค้าหาเชื้อโรค ยังออกไปค้าขายและมีการเดินทางไปอีกหลายจุด ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมสอบสวนทำการสอบสวนแล้ว ก็พบว่ามีพื้นที่และนอกพื้นที่หมู่บ้านที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ มีประชาชนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1,600 กว่าคน ที่จะต้องได้ทำ active case finding
นายแพทย์ สสจ.กล่าวต่ออีกว่า กรณีเรื่องเตียงรองรับผู้ป่วยที่จะเดินทางเข้ามารักษา ในส่วนของโรงพยาบาลทั้ง 12 แห่ง มีทั้งหมด 233 เตียง ส่วนโรงพยาบาลสนาม 2 แห่งมี 76 เตียง รวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 310 เตียง ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 176 เตียง ตอนนี้ได้พยายามหาเตียงสนามเพิ่มอีกประมาณ 300 เตียง ถ้ารวมกันทั้งหมดแล้วได้ราว 700 เตียง ก็จะสามารถรองรับจำนวนคนป่วยที่เข้ามาในส่วนของจังหวัดนครพนมได้
ต่อจากนั้น ผวจ.นครพนม ได้กล่าวสรุปตอนท้ายว่า จริงๆ แล้วจังหวัดไม่ได้มีหน้าที่ไปเอาเรื่องกับชาวบ้าน แต่มีผลกระทบกับคนที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องขาดรายได้จากการทำมาหากิน จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกัน อยากให้เป็นอุทาหรณ์เพราะว่ามันเกิดขึ้นถึง 3 ครั้งซ้อนแล้ว “เมื่อวานผมคุยกับท่านผู้บริหารสถานศึกษา ท่านผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหลาย รวมทั้งมหาลัยนครพนมก็เห็นต้องกันว่า ในขณะที่คลื่นคนหนีตายเข้ามาในพื้นที่เราคงจะต้องเอาเด็กออกจากแนวกระสุนก่อน ขณะนี้คนป่วยกำลังมาถึงบ้านเราแล้วไม่ควรเปิดโรงเรียนตามปกติ ก็เลยมีมติกันว่าให้ขยายการเรียนการสอนงดการเรียนการสอนแบบ on-site ให้ขยายไปถึงสิ้นเดือน ที่ประชุมเห็นตรงกันเพราะมันจะได้ประโยชน์ 1.เอาเด็กออกจากความเสี่ยงเพราะต้องเสี่ยงทั้งเด็กและผู้ปกครอง เราไม่กล้าที่จะให้มีการเรียนการสอนปกติ
2.ผมก็ได้รับคำร้องเวลาออกไปตรวจสถานที่กักตัว ท่านนายก อบต.ฯ หรือท่านกำนันก็ตาม บอกว่าเรื่องตั้งที่สถานที่กักตัวไม่ยาก มันยากคือค้นหาสถานที่ไม่ได้ ง่ายที่สุดเลยใช้อาคารเรียนโรงเรียน ก็เลยกลายเป็นว่าการที่เราเลื่อนการเรียนการสอนมันก็ได้ประโยชน์หลายอย่าง นอกจากจะกันไม่ให้เด็กเล็กลูกหลานเรามีโอกาสเสี่ยงที่ติดเชื้อ ก็เป็นการที่จะเคลียร์พื้นที่ สำหรับเตรียมการรองรับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่จะต้องถูกกักตัวหรือการขยายพื้นที่สำหรับตั้งโรงพยาบาลสนามในอนาคต ต้องกราบเรียนว่าตอนนี้เราเหลือเตียง 133 เตียงเท่านั้นเอง แต่คนจะเข้ามาตอนนี้ตัวเลขในมือผมอยู่ที่ 500 กว่าคน ในจำนวน 500 กว่าคน สมมุติว่าป่วยนะครึ่งหนึ่ง เตียงที่มีอยู่ก็ไม่พอแล้ว ซึ่งข้อมูลที่เรามีอยู่ก็ทำให้เราไม่นิ่งนอนใจ จะต้องหาสถานที่เพิ่มขึ้น แต่บางครั้งในสถานการณ์วิกฤตอย่างนี้ต้องชี้แจงพี่น้องก่อนนะครับว่า ท่านที่เดินทางเข้ามาเพราะท่านที่ติดเชื้อมาหรือป่วยมาในภาวะวิกฤติเช่นนี้แน่นอนครับความสะดวกสบายมันคงไม่ได้เต็ม 100% มันคงไม่ใช่ระบบปกติ ตอนนี้เตรียมกระดาษของ SCG ซึ่งในทุกจังหวัดก็ต้องการหมด เตียงในโรงพยาบาลเต็มแล้ว ผมก็พยายามไปหาจากหน่วยอื่น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเข้าใจกันว่ามันเป็นภาวะวิกฤตเหมือนสงคราม มันคงไม่ได้สะดวกสบายไปทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ก็อยากให้เข้าใจ ตัวผมเองก็กำชับว่าเจ้าหน้าที่ต้องเซฟบุคลากรทางการแพทย์ด้วย เพราะเรามีจำนวนจำกัด ฝากพี่น้องด้วยว่าอาจจะสงสัยทำไมต้องตั้งโรงพยาบาลสนามตรงนี้ยืนยันคนที่จะอยู่ในโรงพยาบาลสนามนั่นคือคนที่ไม่มีอาการ” ผวจ.นครพนม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ประธานฯ ได้กล่าวตอนหนึ่งถึงข้าราชการในพื้นที่ ว่า ขอร้องข้าราชการอย่าหากินกับโรคโควิด ถ้าข้าราชการคนไหนใช้เป็นช่องทางขอแช่งให้ติดเชื้อทั้งบ้าน หากตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองดีแล้วขอให้รอดพ้นจากโรคโควิดทั้งครอบครัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: