X

ผู้ประกอบการนราฯโอด! หลัง ศบค.สั่งล็อกดาวน์ ค้าขายชะงักแถมภาระหนี้สินพอกพูน

นราธิวาส-ผู้ประกอบการนราฯโอด! หลัง ศบค.สั่งล็อกดาวน์ ค้าขายชะงักแถมภาระหนี้สินพอกพูน วอนรัฐบาลเยียวยาด่วน

ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล โดยวานนี้ (9 ก.ค.2564) ที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบให้ล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.2564นี้เป็นต้นไป สำหรับ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ต้องควบคุมสูงสุดและเข้มงวดนั้น โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามบรรดาผู้ประกอบการร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า ช่างเสริมสวยและสถาบันความงาม ที่ต่างโอดครวญเป็นเสียงเดียวกันว่า หยุดทำงานก็ไม่มีกิน ซ้ำภาระหนี้สินก็นับวันจะพอกพูนมากขึ้น


ทางด้าน น.ส.รูซียาตีมะห์ มุหะมะนุห์ อายุ 44 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง ร้านกะมะห์ข้าวแกง ถ.สุริยะประดิษฐ์ อ.เมือง นราธิวาส เปิดเผยว่า ตนเองพอจะทราบมาตราการล็อกดาวน์จากโทรศัพท์มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ เพราะที่ผ่านมาจะมีหนังสือจากทางหน่วยงานมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบ ซึ่งตนเองนั้นมีผลกระทบมาก จากที่ไม่ให้นั่งกินในร้าน ต้องซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วไหนจะลูกน้องอีก ถามว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาในส่วนนี้ให้ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าบ้างหรือไม่

ขณะที่ นางสุพัตรา เรืองศักดิ์ อายุ 33 ปี แม่ค้าร้านเสริมสวยและร้านก๋วยเตี๋ยวโอ่งเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส กล่าวด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ไปกู้เงินมาทำร้านอาหารและร้านเสริมสวย พอเปิดร้านได้แค่เดือนเดียวก็เจอพิษโควิดรอบ 3 และต้องมาล็อกดาวน์อีก ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะขาดรายได้ต่อวันที่ต้องหมุนกินหมุนใช้ และต้องรวบรวมจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ รวมทั้งหนี้สินอื่นๆ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นหนี้นอกระบบอีก ถ้าไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายยังคงเหมือนเดิม แล้วจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย แล้วต้องมาปิดร้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตนต้องกินต้องใช้ ลูกก็ต้องเรียน รถก็ต้องส่ง หนี้ก็ต้องจ่าย ถ้าหยุดนิ่งอยู่กับบ้านจะเอาเงินไหนกิน เอาเงินไหนส่งหนี้ ภาระเยอะมาก อยากให้รัฐบาลมาช่วยเยียวยาด้านนี้ด้วย ลดค่าน้ำค่าไฟหรือไม่ก็ให้แบ่งจ่ายครึ่งหนึ่งก็ยังดี


ขณะที่น.ส.มัสรา ฮาแว อายุ 28 ปี เจ้าของร้านศูนย์ความงามไอริสนราธิวาส เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เปิดเผยว่าตนเองได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะก่อนหน้านี้เราจะมีลูกค้าหลายกลุ่ม เช่น นักเรียน นักศึกษา ครูและหน่วยงานราชการ เมื่อโรงเรียนปิด ครูมาทำงานไม่ได้ เราก็จะขาดรายได้จากกลุ่มนี้ โดยปกติแล้วทางเราจะได้รายได้จากบริการทำหน้าและจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ยิ่งกว่านั้นลูกค้าที่เข้าคอร์สกับทางร้าน ก็ต้องโทรไปแจ้งยกเลิก ก็ต้องทำใจในส่วนของค่าใช้จ่ายยังคงเดิมแต่รายรับลดลงอย่างมาก ไม่ถึงครึ่งกับรายจ่ายเลย ไหนจะค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเงินเดือนพนักงาน ล้วนแต่เป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่าย จากที่พนักงานวันละ 5 คน ก็ต้องสลับกันมา อยากให้ทางรัฐบาลเยียวยาเหมือนรอบที่แล้ว จะได้ช่วยค่าน้ำค่าไฟ หรือไม่ก็ช่วยลดค่าน้ำค่าไฟก็ยังดี เหมือนพนักงานเองจากที่ไม่ได้ค่าจ้าง จะได้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน