ตรัง – พบคนเดินทางกลับด้วยตนเองจากพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดงเข้มงวดด้วยรถตู้ และโดยสารรถสาธารณะติดเชื้อแล้วหลายราย พร้อมประกาศตามหาที่เหลือ พร้อมประกาศหากใครเดินทางเข้าพื้นที่โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ออกคำสั่งกักตัวดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เพื่อป้องกันควบคุมพื้นที่ไม่ให้กลับมาระบาดซ้ำ พร้อมแจ้งเตือนเรือนจำสงขลาปล่อยผู้ต้องขังต้องสวอปก่อนปล่อย ขณะนี้พบติดเชื้อแล้ว 1 ราย
นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษก ศบค.ตรัง กล่าวว่า ศบค.ตรัง ประกาศห้ามคนจากพื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 10 จังหวัด และจากพื้นที่สีแดงอีก 24 จังหวัด รวมทั้ง 34 จังหวัด เดินทางกลับด้วยตนเองทั้งการเหมารถตู้กลับ กลับด้วยรถขนส่งสาธารณะ และห้ามโดยสารขณะที่มีบุคคลอื่นร่วมด้วย เนื่องจากขณะนี้พบคนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงสูงและควบคุมเข้มงวด เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ เดินทางด้วยรถตู้ และใช้บริการรถแท็กซี่ประจำทาง และต่อมาพบเป็นผู้ติดเชื้อและแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น ทำให้เกิดผู้ติดเชื้อแล้วหลายราย ทางศบค.จึงได้ประกาศตามหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่โดยสารมารถคันเดียวกันอีกหลายราย และยังพบผู้ป่วยสายพันธุ์เดวต้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย หวั่นนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกัน ศบค.ตรังเตือนเรือนจำจ.สงขลาให้ Swab ตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัวออกจากเรือนจำทุกราย หลังพบชาว อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำจังหวัดตรัง กลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ได้เพียง 9 วัน แต่ด้วยระบบการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตรังติดตามตัวมาตรวจหาเชื้อ พบผลเป็นบวกแล้ว 1 ราย จึงต้องแจ้งเตือนให้เรือนจำสงขลาต้องตรวจผู้ต้องขังก่อนปล่อยออกจากเรือนจำทุกราย ขณะเดียวกัน ด่านทางบกทั้ง 4 ด่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปตรวจสอบ และเน้นย้ำให้ตรวจสอบเข้มข้นตลอดเดือนนี้ เพราะเชื่อว่าตลอดเดือนนี้จะต้องมีคนเดินทางออกจากจังหวัดเสี่ยงสูงตลอดทั้งเดือน พร้อมกับสั่งทุกอำเภอตรวจสอบเส้นทางสายรองในพื้นที่ หวั่นคนเดินทางเข้าหลบเลี่ยงด่านสายหลักทั้ง 4 ด่าน โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ออกคำสั่งกักตัว แต่ละอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน จึงต้องจัดให้มีชุด ชรบ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คอยตรวจตราว่ามีการเดินทางผ่านเส้นทางสายรองดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งการตรวจตราในชุมชน โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอสม. หรือตาสับปะรด ตรวจสอบทุกวัน ซึ่งถ้าพบมีใครเดินทางเข้ามาในพื้นที่ก็จะต้องมีคำสั่งให้กักตัวต่อไป ทั้งนี้ หากในบ้านใดมีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงทั้ง 34 จังหวัด แต่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ และถูกตรวจพบในภายหลังจะถือว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค จะมีความโทษตามความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ,มาตรา 52 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และทั้งจำทั้งปรับ และหากเข้ามาก็จะต้องกักตัวเอง และแยกตัวออกจากคนในบ้าน เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับคนในบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงผลการปฎิบัติการจับกุมยาเสพติด-อาชญากรรม ในพื้นที่จังหวัดยะลา
- ยิงทิ้งหนุ่มเมียนมาร์ 2 ศพ ริมชายแดนสวนผึ้ง ตำรวจตามรวบได้ที่ด่านแม่สอด
- กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงกรณีคดีหาดวาสุกรี ยืนยันพร้อมส่งเสริมการแต่งกายชุดมลายู
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: