ชัยภูมิ – เร่ง เปิด รพ.สนามประจำทุกตำบล อำเภอเพิ่มทุกจุดในไม่เกิน 16 ก.ค.64 นี้ เพื่อใช้รองรับโครงการชัยภูมิโมเดล “ชาวชัยภูมิไม้ทิ้งกันพร้อมรับผู้ป่วยโควิดขาดเตียง กลับมารักษาตัวบ้านเกิดพุ่งต่อเนื่องแล้วกว่า 1,001 ราย ด้านยอดผู้ป่วยคลัสเตอร์เดิมในจังหวัดได้ลุ้น ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเป็นวันแรก แต่ยังการ์ดตกไม่ได้ี ยังต้องรอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เหลือตามมาอกอยู่ในพื้นที่จำนวนมากยังต้องต่อเนื่อง!
( 13 ก.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ล่าสุด ถือว่าเริ่มมีสถานการณ์พบผู้ป่วยในกลุ่มคลัสเตอร์แพร่ระบาดภายในจังหวัดวันนี้ถือว่ามียอดนิ่งไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเป็นวันแรก แต่จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเฉพาะในกลุ่มโครงการรับผู้ป่วยจากพื้นที่เสี่ยงที่ไม่มีเตียงในโรงพยาบาลจากพื้นที่เสี่ยงมาช่วยรองรับรักษาตัวได้เพียงพอ
ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิได้มีโครงการโมเดลพร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 จากนอกพื้นที่จากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องไปอยู่อย่างลำบากไม่มีเตียงภายในโรงพยาบาลรองรับได้เพียงพอ ตามโครงการชาวชัยภูมิเราไม่ทิ้งกันพร้อมรับชาวชัยภูมิติดโควิด-19 กลับบ้านมารักษาตัวในพื้นที่ ผ่านสายด่วน Call Center 098-1352870 ,098-1352907 จ.ชัยภูมิ เพื่อให้ทางจังหวัดจัดรถเดินทางไปรับตัวกลับมารักษาตัวในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่อขง จ.ชัยภูมิ อยู่ในขณะนี้
ยังมียอดการจัดรถเดินทางไปรับกลับมาเข้าพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมียอดเพิ่มขึ้นอยู่ต่อเนื่องในวันนี้เพิ่มขึ้นอีก 49 ราย กระจายอยู่ในอีกกว่า 14 อำเภอ แยกเป็นใน อ.เกษตรสมบูรณ์ 3 ราย ,แก้งคร้อ 6 ราย ,คอนสวรรค์ 7 ราย ,คอนสาร 3 ราย ,จัตุรัส 4 ราย ,ซับใหญ่ 1 ราย ,เทพสถิต 1 ราย ,เนินสง่า 2 ราย ,บ้านแท่น 1 ราย ,บำเหน็จณรงค์ 1 ราย ,ภักดีชุมพล 1 ราย ,ภูเขียว 14 ราย ,หนองบัวแดง 5 ราย ,หนองบัวระเหว 1 ราย รอผลสอบอีก 4 ราย ซึ่งขณะนี้ทำให้จังหวัดชัยภูมิมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมแล้วรวม 1,001 ราย และล่าสุดวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสมแล้ว 17 ราย
ซึ่งแยกเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดงรวมจำนวน 315 ราย และสีเหลือง ที่เป็นมาตรการป้องกันไม่ให้คนเข้าพื้นที่ไป กระจายเป็นพาหะแพร่สู่คนในพื้นที่ได้ทันที เพื่อส่งตัวเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก กระจายอยู่ตามโรงพยาบาลอำเภอต่าง ๆโดยตรงมาต่อเนื่อง
และในส่วนผู้ป่วยโควิด-19ในกลุ่มสีเขียว ก็จะแยกออกมาให้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสนามแห่งแรก ภายอาคารโรงยิมเนเซียมสิริวัณวรี สนามกีฬากลางจังหวัดชัยภูมิ แห่งแรกในขณะนี้ได้รองรับได้ไม่เกิน 100 เตียงแล้ว
ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ ที่ขณะนี้จำเป็นต้องมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการรับกลับบ้านครั้งนี้ยังมีอีกจำนวนมากต่อเนื่องรวมผู้ป่วยยืนยันสะสมทะลุแล้วกว่า 1,000 คนในขณะนี้ ก็ได้ขยายเปิดพื้นที่ รพ.สนามแห่งที่ 2 ภายในอาคารเอราวัณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ รองรับผู้ป่วยได้อีก 170 เตียง เพื่อเปิดรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้เพิ่มเติมอีกในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.64 ) ต่อไปได้อีกแห่ง
รวมทั้งตามโครงการรับผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้าน ขณะนี้มีการรับผู้ป่วยกลับมารักษาตัวแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 450 ราย และยังคงเปิดรับอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังมีการติดต่อขอให้ไปรับตัวเข้ามาเพิ่มเติมอีกหลายพื้นที่จำนวนมาก
ทางจังหวัดชัยภูมิเอง จึงได้เร่งประสานให้ในทุกพื้นที่ของจังหวัด ทั้ง 16 อำเภอ ในทุกตำบลกว่า 124 อปท.เพื่อให้มี 1 โรงพยาบาลสนาม ต่อเชื่อมกับ จนท.บุคคลกรทางการแพทย์ที่มีในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ในทุกแห่งจากนี้ควบคู่กันอีกทางในขณะนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิด รพ.สนามไว้รองรับผู้ป่วยและช่วยลดความแออัดลดความแออัดของผู้ป่วยรับตัวมารักษาตัวในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทุกแห่งที่ รพ.สต.มีโรงพยาบาลสนามในทุกแห่งได้ไม่เกิน 16 ก.ค.64 นี้
ซึ่งในช่วงนี้ก็ขอให้ผู้ป่วยที่ติดต่อมาให้ไปรับกลับมารักษาตัวที่ชัยภูมิ อาจจะต้องช้าลงก่อนไว้บ้าง เพื่อที่ขณะนี้ทางจังหวัดชัยภูมิ ต้องเร่งเตรียม รพ.สนามไว้รองรับให้ทันต่อไปได้ในไม่เกินวันที่ 17 ก.ค.64 นี้ให้ได้ต่อเนื่องจากนี้ไปด้วย
นอกจากนี้ ซึ่งชาวชัยภูมิทุกคนเองก็ยังการ์ดตกไม่ได้ เพราะบางส่วนยังมีกลุ่มเสี่ยงในคลัสเตอร์เดิมที่มีอยู่ในพื้นที่ยังต้องรอกักตัวรอยืนยันผลตรวจตามมาอีกจำนวนมากด้วย และขอให้ปฏิบัติคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ยังประกาศขอความร่วมมือ ให้งดออกจากเคหะสถาน 23.00น.-05.00 น.เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.64 จนถึงวันที่ 23 ก.ค.64 และให้ปิดสถานศึกษาโรงเรียนทุกแห่งทั้งจังหวัดชัยภูมิ งดกิจการเรียนการสอนภายในโรงเรียนที่ยังเสี่ยงแพร่เชื้อไว้ก่อน และเปิดให้เรียนทางออนไลน์ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ออกไปอีก 14 วัน ไปถึงวันที่ 23 ก.ค.64 นี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ให้ช่วยกันเข้มงวดทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ด้วย
