นครศรีธรรมราช : สาธารณสุขจังหวัดฯ ขอความร่วมมือยื้อเวลาโควิด ‘สายพันธุ์เดลตา’ เข้าพื้นที่ ยืนยัน เตียงยังเหลือรับผู้ป่วยโควิดกลับบ้าน หลังอดีต ผอ.รพ.ท่าศาลา ออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องเปิด รพ.ชุมชน ขณะที่ รพ.สิชล เปิด รพ.สนามอีกแห่ง ที่หอประชุมอำเภอ
วันที่ 15 กรกฏาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 45 คน เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 17 คน อีก 28 คน เป็นผู้ป่วยในจังหวัด (อยู่ในเขตอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 14 คน, พรหมคีรี 6 คน, ท่าศาลา 3 คน, ช้างกลาง 2 คน, ลานสกา 2 คน และปากพนัง 1 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 1,947 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 521 คน รักษาหายเพิ่ม 20 คน สะสม 1,530 คน เสียชีวิตสะสม 25 ราย
โดยผู้ป่วยในอำเภอเมือง 14 คน เป็นกลุ่มคลัสเตอร์เก่า อย่างหนุ่มออร์แกไนเซอร์งานศพวัดท่าโพธิ์ โยงติดไปยังร้านตัดผมนาเคียน มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน (เป็นผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง), คลัสเตอร์พนักงานบริษัท ทวดทองคอนกรีต สี่แยกเบญจม ป่วยเพิ่ม 1 คน (เป็นผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง), คลัสเตอร์ล้งมังคุด ยวนแหล ติดเพิ่ม 1 คน (สามี), คลัสเตอร์ร้านขายน้ำหอม ซอย 14 ถ.พัฒนาการ ต.คลัง ป่วยเพิ่ม 8 คน (เป็นผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง) และคลัสเตอร์ ธกส.ลานสกา โยงไปติดในครอบครัว 3 คน
อำเภอพรหมคีรี จากคลัสเตอร์พนักงานขับรถส่งสินค้าโรงงานมะพร้าวจากจังหวัดนครปฐม-นครศรีฯ โยงติดบุคคลในครอบครัวเพิ่ม 6 คน
อำเภอท่าศาลา จากคลัสเตอร์ตลาด-ร้านตัดผม มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน, คลัสเตอร์ พนง.โรงงานอาหารทะเล ม.12 ต.ท่าศาลา ติด 1 คน และคลัสเตอร์ครู กศน.ปัตตานี-ท่าศาลา ติดเพิ่ม 1 คน
อำเภอลานสกา จากคลัสเตอร์ ธกส.ลานสกา โยงไปถึงเพื่อนร่วมงาน ธกส. 2 คน
อำเภอช้างกลาง จากคลัสเตอร์เพื่อนจาก จ.สมุทรสาคร-ละอาย-ช้างกลาง เพิ่ม 1 คน
อำเภอปากพนัง จากคลัสเตอร์ ธกส.ลานสกา โยงไปติดเพื่อนภรรยา 1 คน
สำหรับผู้ป่วย จาก กทม. และปริมณฑล เข้ารับการรักษา 17 คนนั้น กระจายเข้ารักษาตามความประสงค์ของผู้ป่วย ประกอบด้วย โรงพยาบาลสิชล 6 คน, โรงพยาบาลพระพรหม 5 คน, โรงพยาบาลท่าศาลา 5 คน และโรงพยาบาลนาบอน 1 คน
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนบริโภคข่าวสารอย่างมีสติ ตระหนักและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยยื้อระยะเวลาการเข้ามาแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในพื้นที่ เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง และอัตราการแพร่ระบาดของโรคสูงกว่าสายพันธุ์อื่น จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ในการลดการแพร่กระจายของโรค กลุ่มเสี่ยงหรือผู้ที่ต้องกักตัว/กักกัน ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดและให้ความร่วมมือกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในการดูแลสุขภาพ สุขอนามัย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการรับผู้ป่วยตาม ‘โครงการกลับมารักษาตัวบ้านเกิด’ แต่ขณะนี้เตียงรักษาผู้ป่วยยังไม่เต็ม ยังมีว่างเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยมากกว่า 500 เตียง แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและลดปริมาณคนไข้ในโรงพยาบาลหลัก คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคมที่ผ่านมา ให้โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลสิชล พิจารณาตั้งโรงพยาบาลสนามสาขาเพิ่มได้ตามความเหมาะสม ล่าสุด ทราบว่าโรงพยาบาลสิชล ใช้พื้นที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอสิชล เป็นโรงพยาบาลสนามอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับพี่น้องประชาชนที่ประสงค์กลับมายังภูมิสำเนา
ขณะที่นายแพทย์รังสิต ทองสมัคร์ ส่งจดหมาย เรียกร้องเปิด ‘รพ.ชุมชน’ ทุกแห่ง รับผู้ป่วยกลับบ้าน
นายแพทย์รังสิต ทองสมัคร์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าศาลา ออกจดหมายเปิดผนึกถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ โควิดหนักกว่าที่คาดคิด ตอนนี้เราตั้งรับกับแบบ โควิดวิ่งนำหน้า เราวิ่งตาม ผู้ป่วยมีหลายระดับ เขียว เหลือง แดง โรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว ผู้ป่วยจากส่วนกลางที่อยากกลับมารักษาที่ภูมิลำเนาเดิมประมาณ 3 เท่าตัว มีมากกว่าเตียงที่เรารับได้ในปัจจุบันอยู่หลายเท่า
ขอเรียกร้องให้เปิดโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งเพื่อรับผู้ป่วยกลับบ้าน โดยแยกโซนสีให้ชัด โรงพยาบาลใดมีขีดความสามารถสูงก็รับคนไข้อาการมาก ลดหลั่นกันไป ถ้าไม่แบ่งเบาวิกฤติจากส่วนกลาง ไม่กี่วัน วิกฤติเหล่านี้จะใหญ่จนเกินควบคุมได้อีกต่อไป ซึ่งเราอาจจะได้เห็นภาพที่ไม่อยากเห็นเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเรา ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เปิดโรงพยาบาลชุมชนที่เหลือเพื่อรับผู้ป่วยเถิดครับ ช่วยเหลือผู้ป่วยได้มาก
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
