นครศรีธรรมราช : ผู้ว่าเมืองคอน เข้ม ลด(งด)เคลื่อนย้าย-เดินทาง ด้าน สสจ. ยอมรับ ห่วงสถานการณ์เตียงรองรับผู้ป่วยวิกฤตน้อยลง ขอประชาชนไม่ออกจากบ้าน 2 สัปดาห์ ร่วมป้องกันสายพันธุ์เดลตา จับตา พนักงานแท่น ‘เชฟรอน’ ติดเชื้อแล้ว 6 คน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นถึง 92 คน เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 46 คน และเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดนครศรีธรรมราชเอง 46 คน อยู่ในเขตอำเภอทุ่งสง 16 คน, ร่อนพิบูลย์ 9 คน, อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 6 คน, สิชล 4 คน, หัวไทร 5 คน, พระพรหม 2 คน, ท่าศาลา 2 คน, พรหมคีรี ลานสกา และบางขัน อำเภอละ 1 คน เจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบสวนโรคและกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
ส่งผลให้ขณะนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 2,145 คน อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล 675 คน (จาก กทม.และปริมณฑล 296 คน) รักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 14 คน สะสม 1,608 คน และเสียชีวิตเท่าเดิม 25 คน
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อในอำเภอเมือง ยังคงเป็นคลัสเตอร์เก่า เช่น กลุ่มช่างตัดผม ‘บังซีส’ ต.นาเคียน เพิ่ม 1 คน โยงไปติดน้องสาวที่ ม.8 ต.ท่างิ้ว อีก 3 คน และพบผู้ป่วยมีอาการเข้ารับการตรวจที่ ม.4 ต.ปากพูน อีก 2 คน ส่วนคลัสเตอร์พนักงานขับรถขนส่งมะพร้าว จากนครปฐม-นครศรีธรรมราช เพิ่มขึ้น 4 คน (สัมผัสผู้ป่วยที่ อ.พระพรหม 2 คน และ อ.ร่อนพิบูลย์ 2 คน) คลัสเตอร์ขายยาเส้นที่ อ.สิชล (โยงไปติดในครอบครัว) 4 คน
อำเภอร่อนพิบูลย์ 9 คน จาก 3 กลุ่ม คือ คนขับรถส่งมะพร้าวสัมผัสผู้ป่วย 2 คน ผู้ป่วยฟอกไต ต.เสาธง (ร่วมกิจกรรมละหมาด) 6 คน และผู้ป่วยเดินทางมาจากจ.สงขลา ถูกกักตัว ม.8 ต.เสาธง พบติดเชื้อ 1 คน
อำเภอหัวไทร 5 คน สัมผัสผู้ป่วยจาก จ.นราธิวาส อยู่ ม.3 ต.หน้าสตน 4 คน (ลูก 2 คน สามี และน้องชาย) ผู้ป่วยถูกกักตัวมีอาการ ม.7 ต.หน้าสตน 1 คน (ร่วมสนทนาวงเพื่อน)
อำเภอท่าศาลา ร่วมกิจกรรมทางศาสนาอิสลาม ม.5 ต.ท่าศาลา 1 คน และแม่ค้าขายปลา ตลาดนัด อีก 1 คน, อำเภอพรหมคีรี 1 ราย ร่วมกิจกรรมทางศาสนา ม.7 ต.อินคีรี, อำเภอลานสกา เพิ่ม 1 คน เป็นกลุ่มพนักงาน ธกส.
ส่วนอำเภอทุ่งสง 16 คน มาจากกลุ่มทหารเกณฑ์ค่ายเทพสตรีฯ ต.กะปาง 3 คน, พนักงาน บริษัทไทยสมุทร ทุ่งสง 1 คน, กลุ่มสัมผัสผู้ป่วย กทม. 7 คน, ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจก่อนฉายแสงติดเชื้อ 1 คน, สัมผัสผู้ป่วยจากสงขลา 2 คน, สัมผัสพนักงานขับรถส่งของ 1 คน, ตรวจขอใบรับรองแพทย์ 1 คน และผู้ป่วยเข้าตรวจรักษา รพ.นาบอน พบติดเชื้อ 1 คน ไม่รอๆๆ
สสจ. แนะ ปชช. ไม่ออกจากบ้านช่วง 2 สัปดาห์หลังจากนี้ ชี้ เตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนักน้อยลง
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังยืนยันถึงความพร้อมของบุคลากร เจ้าหน้าที่ สถานที่ อุปกรณ์ ตลอดจนยาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ยังมีความพร้อมเต็มที่ ที่จะให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่ในส่วนของเตียงสำหรับผู้ป่วยหนักนั้น ขณะนี้มีจำนวนลดลงจากจำนวนผู้ป่วยหนักที่เพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนตั้งการ์ดสูงสุดในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค หากไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ไม่ควรออกจากบ้านในห้วงระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากพบว่ามีไข้หรือไม่สบาย ให้รีบแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัวและเข้าตรวจหาเชื้อ
สสจ.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวขอบคุณ บริษัทเชพรอน ซึ่งตั้งแท่นผลิตน้ำมันในทะเลอ่าวไทย 2 แท่น วันก่อนพบติดเชื้อ 1 คน วันนี้พบเพิ่มอีก 5 คน ซึ่งก่อนส่งคนงานลงไปยังฐาน เจ้าหน้าที่จะต้องกักตัว 7 วันก่อน เพื่อตรวจหาเชื้อ และกักตัวตอนขึ้นจากฐานอีก 7 วัน ซึ่งเป็นการตรวจที่เข้มมาก วันนี้ ทางบริษัทแจ้งมาว่า ได้นำตัวผู้ป่วยมารักษาที่โรงพยาบาลในนครศรีธรรมราช 5 คน และยังมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนที่ถูกกักตัว
“อยากให้ทุกคนตระหนักว่า โรคนี้ไม่เป็นจะดีกว่า เป็นแล้วโอกาสหายยากมาก เราต้องดูแลตัวเองให้มากที่สุด ปลอดภัยที่สุด ถามว่าวิกฤติหรือไม่ รพ.สิชล รพ.ท่าศาลา เต็มกำลังแล้ว ทั้งผู้ป่วยในจังหวัดและมาจากต่างจังหวัด ขณะนี้เตรียมเปิด รพ.สนามเพิ่ม ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ เพื่อรองรับผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด ถามว่าเตียงจะเพียงพอสำหรับผู้ป่วยในจังหวัดหรือไม่ ผมก็ต้องย้ำว่าอย่าป่วยจะดีหรือไม่ สถานการณ์นครศรีธรรมราชวันนี้ แค่นับ 1 เท่านั้น ยังไม่ได้นับ 2 ประชาชนต้องระวังตัวเอง และออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น” นายแพทย์จรัสพงษ์ กล่าวย้ำ
ด้านนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า วันนี้ สถิติผู้ป่วยสูงถึง 92 คน สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ผู้ป่วยเพิ่ม เพิ่มเตียงได้ แต่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์จำกัด บางส่วนติดโควิดต้องรักษา และกักตัวเอง “รักตัวเอง ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโควิด” ทุกภาคส่วนทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดและการรักษาพยาบาล ขอความร่วมมือประชาชนดูแลตัวเอง เข้มงวด ลด (งด) การเคลื่อนย้าย เดินทาง และปฎิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
