เชียงราย-ผู้ใหญ่บ้านเกี๋ยง ม.17 เชียงของ ร้องขอความเห็นใจกับหน่วยงานภาครัฐ หลังป่วยโรคไตวาย ไร้สวัสดิการช่วยเหลือ แต่หน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายทำงานตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ตลอด 24 ชม.
วันที่ 19 ก.ค. 64 นายเมธี เกี๋ยงเถิง ผู้ใหญ่บ้านเกี๋ยง ม.17 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ เผยถึงความในอัดอั้นตันใจฝากโพสต์ เฟสบุ๊ก “สจ.แอร์” ด้วยที่ป่วยเป็นโรคไต มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่ไร้สวัสดิการช่วยเหลือ ซึ่งภาระหน้าที่ ที่ทางผู้ใหญ่บ้านทำงานหนักรับมือทุกสถานการณ์ของลูกบ้าน และหน่วยงาน วอนหน่วยภาครัฐเห็นใจลงมาดูแล ช่วยเหลือสวัสดิการ การรักษาพยาบาลให้เข้าถึงสิทธิ์มากกว่านี้โดยใจความตามเฟซบุ๊ก ระบุว่า การดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน 1 คน ต่อ 1 หมู่บ้าน ทำงานร่วมฝ่ายปกครอง ของแต่ละท้องที่นั้นๆ ที่ได้เสียสละทำงานเพื่อช่วยเหลือชุมชนของตนเอง ทำงานทุกรูปแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในสถานการณ์ การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในขณะนี้ และยังร่วมงานแทนให้กับทุกกระทรวง มีความรับผิดชอบทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุด แต่กับผลรับที่ได้จากรัฐเงิน ค่าตอบแทนก็น้อยนิด ถูกเชิญร่วมงานพิธีต่างๆ เงินเดือนแทบไม่เหลือ ถึงคราวเจ็บป่วยยังไม่ได้รับการเหลียวแล จึงออกมาฝากถึงรัฐบาลในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้นำชุมชน อยากช่วยผลักดันเรื่องนี้ สะท้อนให้กับผู้นำชุมชน ที่กำลังเป็น และกำลังจะเข้ามาเป็น ให้ได้รับสิทธิเข้าถึงการรักษาแบบครอบคลุมนายเมธี เกี๋ยงเถิน ผญบ.บ้านเกี๋ยง ม.17 ต.ห้อยซ้อ อ.เชียงของ ยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านเกี๋ยง มานาน 17 ปี แต่เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 63 ได้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ตรวจพบว่าเป็นโรคไตวาย ต้องทำการรักษาฟอกไตต่อเนื่อง ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ การรักษาตัวฟอกไตที่ รพ. 11 วัน ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าฟอกไตเองทั้งหมด ไม่สามารถเบิกสวัสดิการอะไรได้ หลังจากรักษาครบ 11 วัน หมอให้กลับบ้าน ครั้งต่อไปให้ไปฟอกไตที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชเชียงของทุกวันอังคารและศุกร์ โดยมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท เฉลี่ยรวมแล้วเดือน 12,000 บาท ทั้งที่ย้อนกลับมาดูเงินเดือนผู้ใหญ่บ้าน เพียงเดือนละ 11,800 บาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับงานของ อสม. ที่ดูแลชาวบ้านในพื้นที่ตนเองแค่ประมาณ 10 กว่าคน แต่ได้รับสวัสดิการฟอกไตฟรี มาเทียบกับงานของผู้ใหญ่บ้านที่ต้องรับงานจากทุกกระทรวง อีกทั้งต้องดูแลลูกบ้านทุกคนตลอด 24 ชม. แต่กลับไม่มีสวัสดิการดูแลรักษา ในส่วนนี้ให้เลย และที่ผ่านมาตน เคยนำเรื่องราวของตนไปปรึกษา กับหลายภาคส่วน แต่ติดข้อจำกัดหลายอย่าง จึงไม่สามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ ตนเองจึงเขียนหนังสือ 1 ฉบับ ร้องขอความเป็นธรรมขึ้น นำเรื่องราวไปโพสต์เฟสบุ๊ก-เพื่อน สจ. เพื่อขอความเป็นธรรมและขอความเห็นใจจากผู้มีอำนาจ ถ้าปัญหาความเดือดร้อนนี้สามารถคลี่คลายได้ ก็จะเป็นผลดีกับทั้งตนเองและผู้ที่อาสามาทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: