พ่อเมืองกรุงเก่า เผยสถานประกอบการปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อระวังโทษทางกฎหมาย ชี้โลกโซเชียลไว ปกปิดจะถูกสั่งหยุดดำเนินการ ขณะที่ สธ.ห่วงหญิงมีครรภ์
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานประกอบการต่าง ๆ นั้น ต้องยอมรับว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีสถานประกอบกว่า 2,600 แห่ง ไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราทุกโรงงานได้ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดมอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหนังสือแจ้งให้ทุกโรงงานประเมินตนเอง ตามแบบฟอร์ม ของ Thai Stop Covid Plus และให้ส่งผลการประเมินกลับมาที่อุตสาหกรรมจังหวัด แล้วอุตสาหกรรมจังหวัดจะไปไปสุ่มตรวจ ประเมินตามโรงงานต่าง ๆ ว่ามีการปฏิบัติเหมาะสมในการควบคุมการแพร่ระบาดหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดฝากข้อคิดถึงสถานประกอบการหากพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในสถานประกอบการ ขออย่าได้ปกปิดข้อมูล เพราะการปกปิดข้อมูลและทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง มีโทษทางกฎหมาย หากทราบว่าพบผู้ติดเชื้อต้องรีบมาแจ้งให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขทราบ เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ แยกผู้ติดเชื้อแบบเคสบายเคส ทำกระบวนการอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อวงกว้าง ซึ่งบางสถานประกอบตั้งใจ ปิดข้อมูล แต่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ก็ต้องถูกสั่งปิดอยู่ดี ฉะนั้นหากพบผู้ติดเชื้อน้อยราย ต้องแจ้งก่อน หากทางคณะกรรมการควบคุมโรครับฟังข้อมูลการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี อาจไม่จำเป็นต้องปิดสถานประกอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแนะนำวางแผนร่วมกัน ซึ่งยิ่งหากปกปิดแล้วคุมสถานการณ์ไม่ได้ก็ต้องปิดสถานประกอบการ ยิ่งส่งผลกระทบภาพพจน์ของสถานประกอบ สำคัญที่สุดความลับไม่มีในโลก สถานประกอบการก็จะถูกร้องเรียนโดยคนในสถานประกอบการของตัวท่านเอง ปัจจุบันนี้โลกโซเชียลมันไว ปกปิดยาก หากพบต้องรีบแจ้งข้อมูล และร่วมกับหาทางควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดก็จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
ด้าน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการเสียชีวิตของแม่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 7 เดือน และแม่ตั้งครรภ์ 9 เดือนแล้วลูกเสียชีวิต ซึ่งมารดาติดเชื้อโควิด 19 โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยเป็นโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ เลือดแข็งตัวผิดปกติ คลอดก่อนกำหนดได้ ส่วนทารกที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวน้อยเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับทารกที่คลอดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ติดเชื้อ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งทุกโรงพยาบาลและคลินิกฝากครรภ์มีแนวทางให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์ โดยให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด–19 ต่อหญิงตั้งครรภ์ และเมื่อตัดสินใจฉีดวัคซีนแล้วให้พิจารณาว่าไม่มีข้อห้าม ในการฉีดและผู้รับบริการมีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ โดยให้หญิงตั้งครรภ์ลงชื่อในแบบคัดกรองและใบยินยอมในการรับวัคซีน ซึ่งจะเปิดช่องทางพิเศษให้กับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะด้วย โดยในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ หญิงตั้งครรภ์ควรปฏิบัติและดูแลตนเองเป็นพิเศษ โดยสวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและจำกัดการเดินทางเท่าที่จำเป็นเมื่อต้องไปฝากครรภ์ ไม่ไปในที่ ที่มีคนหนาแน่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ กินอาหารปรุงสุก สะอาด และครบ 5 หมู่ ได้แก่ ข้าวหรือแป้ง เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ควบคู่กับการดื่มนมรสจืด 2-3 แก้วทุกวัน โดยขอให้เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และบุหรี่ จะทำให้แม่และลูกห่างไกลจากโควิด 19 ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: