ชัยภูมิ – หลังยอดพบผู้ป่วยรายใหม่เป็นรายวันภายในจังหวัดเริ่มลดลงต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 3 ราย และจากโครงการรับคนป่วยกลับบ้านเพิ่มอีก 79 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย เป็นราย (ศพ) ที่ 26 ของจังหวัดรวมป่วยสะสมแล้ว 2,280 ราย พร้อมทั้งล่าสุดทาง ผู้ว่า-พมจ. สั่งเร่งตรวจสอบเป็นการด่วนแล้ว หลังยังพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงในกลุ่มคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งที่เข้ามาในพื้นที่ ทั้งมีการอ้างว่าติดต่อญาติอยู่ในพื้นที่ยังไม่ได้ เดินทางมาเข้าพื้นที่เอง โดยไม่มีการป้องกันตัวเองที่ดีพอ ซึ่งพบว่ามีตัวเลขในขณะนี้เป็นจำนวนมากกว่า 2 หมื่นคน จึงยังเสี่ยงเกิดปัญหาหากมีการติดเชื้อโควิดโดยไม่มีมาตรการเข้ามารักษาตัวตามระบบป้องกัน ยิ่งเสี่ยงกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่แพร่เชื้อรุนแรงซ้ำหนักตามมาอีกจำนวนมากในจังหวัดได้!
(หมายเหตุ ภาพในคลิป เป็นภาพประกอบในการช่วยกันที่จะหาแนวทางแก้ปัญหาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมในทุกด้านมากขึ้น ในยามที่บ้านเมืองไทยเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ในทั่วประเทศได้อีกทาง รวมทั้งมาตรการล่าสุดของ ผวจ.ชัยภูมิ หลังภาพคลิปหญิงรายนี้ ที่อ้างว่าตนเองมีผลตรวจติดโควิดแล้ว ได้เดินทางจาก กทม.กลับบ้านมากับเพื่อนมาที่ จ.ขอนแก่น และไปนั่งรอหารถที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อจะเดินทางต่อตอนแรกอ้างว่า จะมาหาญาติที่ จ.ชัยภูมิ แต่ยังติดต่อญาติอยู่ที่ชัยภูมิไม่ได้ พอ จนท.สอบถามไปมามีภูมิลำเนาอยู่ จ.บึงกาฬ ซึ่ง ทาง จนท.เกี่ยวข้องได้พาตัวเข้ารักการรักษาตามระบบที่จังหวัดของภูมิลำเนาหญิงรายนี้ อาศัยอยู่ที่ จ.บึงกาฬต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
( 25 ก.ค.64 ) ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ( ผวจ.ชัยภูมิ) พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ( สสจ.ชัยภูมิ) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ยังมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ภายในจังหวัดจากกลุ่มที่พากันเดินทางกลับบ้านมาเองก่อนหน้านี้ที่จะมีโครงการรับคนป่วยกลับบ้านขึ้น ซึ่งยังเป็นปัญหาในจังหวัดที่พบผู้ป่วยอยู่กลายเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อไม่กักตัวเอง ออกไปร่วมสังสรรค์พบปะคนในชุมชน ทั้งงานศพ งานแต่ง งานบวช งานรื่นเริงต่างๆ ที่ผ่านมาอยู่ในหลายพื้นที่ จนถึงวันนี้ยังพบผู้ป่วยโควิดติดเชื้อภายในจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย อยู่ใน อ.บำเหน็จณรงค์ 1 ราย ,จัตุรัส 1 ราย ,เกษตรสมบูรณ์ 1 ราย ซึ่งถือว่าในส่วนผู้ป่วยพบภายในจังหวัดในกลุ่มนี้เดิมมีผุ้ป่วยมาแล้วหลายร้อยรายในปัจจุบันก็เริ่มสามารถควบคุมให้มีผู้ป่วยในกลุ่มนี้ลดลงเหลือเพียงเลขหลักเดียวมาได้ต่อเนื่อง
และในส่วนที่ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงมากขึ้นนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ทางจังหวัดชัยภูมิ มีโครงการนำร่องออกมาเป็นโครงการชัยภูมิโมเดลพร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 จากนอกพื้นที่มาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ไม่มีเตียงภายในโรงพยาบาลต่างๆรองรับได้เพียงพอในขณะนี้ ตามโครงการชาวชัยภูมิทุกคนคือญาติพี่น้อง เราไม่ทิ้งกัน ซึ่งจังหวัดชัยภูมิ จะไม่ยอมทิ้งให้ชาวชัยภูมิทุกคนแม้แต่รายเดียวถูกทอดทิ้งไม่มีที่รักษา ที่จะเป็นนโยบายสำคัญในขณะนี้ด้วยว่า ในอนาคตการหยุดแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อไปคนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ก็ยิ่งจะต้องช่วยแก้ปัญหาหยุดการแพร่เชื้อลงให้ได้โดยเร็ว และขณะนี้สามารถรับกลับบ้านจะหยุดการแพร่เชื้อได้ทันที ดีกว่าปล่อยกลับมาบ้านกักตัวกันเองบ้างไม่กักบ้าง ยิ่งจะเป็นการทำให้เกิดการแพร่ระบาดกลายเป็นคลัสเตอร์ไปในวงกว้างไม่จบสิ้นตามมาจำนวนมากที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ด้วย
ซึ่งวันนี้ล่าสุดมีการรับผู้ป่วยกลับบ้านเข้าพื้นที่มาเพิ่มอีกรายใหม่รวม 79 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมเป็นราย (ศพ) ที่ 26 ของจังหวัด และมียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมรวมแล้ว 2,280 ราย
ซึ่งนอกจากนี้ในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อในพื้นที่เพิ่มเติม ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.ชัยภูมิ ได้เร่งมอบหมายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ พร้อมทั้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ ( พมจ.ชัยภูมิ) เร่งตรวจสอบเป็นการด่วนแล้ว หลังยังพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงในกลุ่มคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งที่เข้ามาในพื้นที่ ทั้งมีการอ้างว่าติดต่อญาติอยู่ในพื้นที่ยังไม่ได้บ้าง เดินทางมาเองก่อนเพื่อรอติดต่อญาติให้ได้ โดยไม่มีการป้องกันตัวเองที่ดีพอ ซึ่งพบว่ามีตัวเลขในขณะนี้อีกเป็นจำนวนมากกว่า 20,000 คน ซึ่งจะทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาหากกลุ่มคนเร่ร่อนในจุดนี้มีการติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่มีมาตรการเข้ามารักษาตัวตามระบบป้องกัน ยิ่งเสี่ยงกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่แพร่เชื้อรุนแรงหนักซ้ำตามมาอีกจำนวนมากในจังหวัดชัยภูมิได้
ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะนี้ของ จ.ชัยภูมิ ได้เร่งระดมตรวจสอบต่อกรณีที่จะป้องกันกลุ่มเสี่ยงในจุดนี้เป็นการด่วนอย่างต่อเนื่องแล้ว เพื่อไม่มีการติดเชื้อ แล้วไม่ได้เข้ามาสู่ระบบรักษาตัวที่ดีพอ แต่เสี่ยงไปแพร่เชื้อ ไปนั่งล้มป่วยตามเพิงพักริมทาง ตามป่าละเมาะ ริมถนน ทางเท้า ท่อระบายน้ำ บ้านร้างในจุดต่าง ๆ ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวยืนยันว่า จ.ชัยภูมิ จะต้องไม่ให้เกิดภาพแบบนี้ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ว่าไปพบคนเจ็บป่วยจากโควิดแล้วไม่มารักษาไปนั่งล้มป่วยนอนตายไร้ญาติแบบนี้เด็ดขาดด้วย
