อดีตครูเกษียณวัย 62 ปียิงตัวตายคาวัดพร้อมทิ้งจดหมายลาภรรยาเผยเครียดเรื่องหนี้สิน
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 9 ส.ค.64 พ.ต.ต.อาทิตย์ รุ่งเชตุ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายภายในวัด เขมาภิรตาราม ราชวรวิหารต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ข่าวน่าสนใจ:
- ทุบกระจกหนีตาย ดินสไลด์บ้านพังตกแม่น้ำบางปะกง เดือดร้อน 5 ครัวเรือน
- นนทบุรี กระบะเมา เฉี่ยว จยย.ล้ม พลเมืองจอดช่วย กับถูก จยย.อีกคันพุ่งชนซ้ำเจ็บ 4
- สองแม่ลูกปีนหน้าต่างชั้น 2 หนีตายไฟไหม้บ้านกลางดึก คาดไฟฟ้าลัดวงจร
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงชิงช้าริมเขื่อนท่าน้ำวัด พบศพนายสักก์สกล เพ็งแจ่มสุนิธิ อายุ 62 ปี สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวลายสก๊อต สวมกางเกงขายาวสีดำ นั่งอยู่ที่ชิงช้า ศีรษะ เอนไปด้านหลัง ข้างลำตัวพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก อีกทั้งผมจดหมาย 1 ฉบับระบุข้อความว่า “ผมไม่ได้เป็นโควิด ผมฉีดยาแอสตร้าแล้ว เศรษฐกิจช่วงโควิดปัญหาหนี้เงินท่วม งานก็ไม่ได้ทำ ผมเหนื่อยและท้อแท้กับชีวิต ไม่รู้จะหาเงินมาใช้หนี้ได้ยังไง” (ท้ายสุดของชีวิต) ขณะที่ทางด้านแพทย์เวรตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด
สอบสวนนายวิสิทธิ์ เสาวภาคกุล อายุ 44 ปี เด็กวัด ให้การว่า ประมาณ 17.00 น.ขณะกำลังจะนำผ้าไปซักเดินสวนกับผู้ตาย ตอนแรกคิดว่าเป็นชาวบ้านเข้ามานั่งเล่น สักพักได้ยินเสียงคล้ายประทัด ได้วิ่งมาดูพบว่าชายดังกล่าวยิงตัวตาย จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ต่อมานางธนัลนัย เพ็งแจ่มสุนิธิ อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างสามีถึงกับเข่าทรุดปล่อยโห้ร่ำไห้ พร้อมกับให้ปากคำว่า สามีเป็นครูเกษียณมาได้ 2 ปี หลังจากเกษียณได้มาขับจยย.รับจ้างที่หน้าปากซอยหมู่บ้าน ช.รุ่งเรือง 4 เมื่อช่วงบ่ายสามีได้นำพระไปเลี่ยมทอง เอามาให้ตนใส่ ไม่คิดว่าสามีจะมายิงตัวตาย ส่วนสาเหตุคิดสั้นมาจากเรื่องหนี้สิน ตนก็บอกกับสามีว่าค่อย ๆ ทยอยใช้เดี๋ยวก็หมด ไม่คิดว่าสามีจะคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำพยานแวดล้อมรวมถึงข้อมูลแรงจูงใจกับทางญาติไว้ ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตนั้นน่าจะเครียดปัญหาเรื่องหนี้สินที่เป็นอยู่จึงเกิดคิดสั้นใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: