นครศรีธรรมราช : สสจ. – ผอ.รพ.นบพิตำ ยกมือไหว้ขอโทษ ยอมรับ แพทย์หญิงนำพี่สาวมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์จริง ยืนยันไม่มีเจตนา แต่วัคซีนเหลือ ขอรับผิดชอบตัวเองด้วยการลาออกแล้ว
วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ความคืบหน้า กรณีแพทย์หญิงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช นำญาติ (พี่สาว) มาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่จัดไว้สำหรับกลุ่มแพทย์และบุคลากรด่านหน้า จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายแพทย์กฤษณ์ เพชรสำรวล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนบพิตำ แถลงข่าว ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่ โรงพยาบาลนบพิตำ อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงคนดังกล่าวรู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยได้พิจารณาตัวเองด้วยการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ยื่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียบร้อยแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนา เนื่องจากบุคลากรแพทย์และเครือข่ายทั้ง 60 คน ได้ฉีดครบทุกคน และมีส่วนที่เหลือหากทิ้งก็เสียดาย จึงขอให้ช่วยฉีดให้ญาติ
นายแพทย์จรัสพงษ์ ระบุว่า แม้เจ้าตัวขอลาออกแล้ว แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเดินหน้าสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษ โดยจะเสนอมายัง สสจ.อีกครั้งว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรโดยเฉพาะทางวินัย และมีความเสียหายเกิดขึ้นแค่ไหน อย่างไร ทั้งนี้ ในเบื้องต้นนั้นรับฟังได้ว่า เป็นวัคซีนส่วนที่เหลือ เป็นโดสที่ 7 จากปกติ 1 ขวดจะได้ 6 โดส แต่เมื่อมีการดึงด้วยไซริงค์ที่เรียกว่า Low Dead Space Syringe จะสามารถดึงได้หมดโดยไม่มีวัคซีนตกค้าง ซึ่งหลังจากฉีดให้พี่สาวแพทย์ดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รายงานผู้อำนวยการโรงพยาบาลทราบ จึงสั่งให้ระงับการฉีดให้แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า จึงทำให้ไม่ได้ฉีดให้แม่และญาติอีกคนของแพทย์หญิง
สสจ.นครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า วัคซีนเหล่านี้ได้รับฉันทานุมัติว่า เป็นวัคซีนที่ต้องฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเท่านั้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความไม่เรียบร้อย ในฐานะ สสจ. ต้องขอโทษชาวนครศรีธรรมราชและชาวไทยทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายแพทย์กฤษณ์ เพชรสำรวล ผอ.รพ.นบพิตำ แถลงยอมรับถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ได้ยกมือไหว้ขณะกล่าวขอโทษประชาชนด้วย
ทั้งนี้ ภาพกล้องวงจรปิดจุดฉีดวัคซีนของ รพ.นบพิตำ ช่วงเวลา 13.34 น. วันที่ 13 ส.ค.64 ที่ผ่านมา เห็นหญิงคนหนึ่งที่ถูกระบุว่า เป็นพี่สาวแพทย์หญิงคนดังกล่าว เดินออกจากขอบขวาของจอภาพ ก่อนเข้าไปหาเจ้าหน้าที่แล้วนั่งลงทันที โดยหันแขนซ้ายให้เจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีน เมื่อเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนั้น บุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.นบพิตำ จำนวนมาก ต่างนั่งรอฉีดวัคซีนไฟเซอร์อยู่ด้วย หลายคนจึงพากันจับจ้องไปยังบุคคลที่ไม่ใช่บุคลากร แต่กลับได้รับการฉีดวัคซีน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 ใน จ.นครศรีธรรมราช ระลอกเมษายน พบผู้ติดเชื้อ เพิ่ม 116 ราย เป็นผู้ป่วยในเขตอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 31 ราย, พรหมคีรี 20 ราย, ท่าศาลา 16 ราย, สิชล 6 ราย,ร่อนพิบูลย์ 12 ราย, พระพรหม 12 ราย, ชะอวด 4 ราย, ลานสกา 3 ราย, พิปูน 1 ราย และฉวาง 1 ราย อีก 10 ราย เป็นผู้ป่วยจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ไม่มีเตียง
ส่งผลให้ขณะนี้ มีผู้ป่วยสะสมรวม 5,701 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,906 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยจากต่างจังหวัด ที่ไม่มีเตียงกลับมารักษาตัวบ้านเกิด 1,213 ราย รักษาหายแล้ว 605 ราย สะสม 4,074 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสม 46 ราย ผู้เสียชีวิตรายที่ 46 เป็นเพศชาย อายุ 68 ปี ภูมิลำเนา ต.แก้วแสน อ.นาบอน มีโรคประจำตัวและเป็นผู้ป่วยติดเตียง ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายระยะสุดท้าย และเป็นคลัสเตอร์ที่เดินทางมาจาก จ.ปัตตานี
