นครพนม – ตามคาดเคสรถบรรทุก 8 ชีวิต ผลออกป่วยยกครอบครัว ลุ้นทีมฟุตบอลเพื่อนหลาน 39 รายเสี่ยงติดเชื้อ เหตุหญิงผู้ป่วยมาจากพื้นที่สีแดงเข้มปิดไทม์ไลน์
จากกรณีทีมสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ตรวจพบผู้ป่วยโควิดเกือบยกครอบครัว ซึ่งมีสมาชิกอยู่รวมกัน 8 ชีวิต มีผลตรวจเป็นบวกถึง 6 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกในเคสนี้เป็นหญิงอายุ 59 ปีภรรยาของชายวัย 60 ปี ที่มีอาชีพขับรถบรรทุกขนส่งปูนซิเมนต์จากประเทศเพื่อนบ้านไปส่งตามต่างจังหวัด เช่น อุบลฯ อำนาจเจริญ มุกดาหาร ฯลฯ เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงนำคนในครอบครัวไปตรวจค้นหาเชื้ออย่างเร่งด่วน เบื้องต้นพบเพิ่มอีก 5 ราย เป็นลูกสะใภ้ 1 คนและหลานอีก 4 คน ทั้งนี้มีไทม์ไลน์ว่าก่อนหน้านี้กลุ่มหลานๆ ได้ไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนในลานวัดโพธิ์ชัย หรือวัดพระบาทเวินปลา บ้านเวินพระบาทหมู่ 1 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน เจ้าหน้าที่จึงนำเด็กๆที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปีตรวจหาเชื้อโควิดจำนวน 39 คน ผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ เด็กทั้งหมดจึงถูกกักตัวที่ศาลาวัดโพธิ์ชัยเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ส่วนสมาชิกในบ้านหลังนี้เหลืออีก 2 คนที่ผลตรวจยังไม่ออก คือ ชายวัย 60 ปีคนขับรถบรรทุกปูนและลูกชาย โดยทั้งคู่ถูกกักตัวอยู่ในบริเวณบ้านเพื่อรอดูอาการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ต่อมา จังหวัดนครพนมมีคำสั่งที่ 2059/2564 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ห้ามผู้ใดเข้าหรือออกนอกพื้นที่บางส่วนของบ้านเวินพระบาทหมู่ 1 ต.เวินพระบาท เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-24 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับอำเภอเมืองนครพนม ใกล้เคียงกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจเชิงรุกป้องกันการแพร่ระบาดในประชากร 873 คนจาก 202 หลังคาเรือน
ล่าสุด วันที่ 19 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า สมาชิกในครอบครัวนี้ที่เหลือ 2 คนนั้นคาดว่าติดเชื้อทั้งคู่ เพราะช่วงหน้าวานนี้(18 สค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปนำตัวชายวัย 60 ปีส่งรักษาที่ รพ.ท่าอุเทน หลังมีผลตรวจออกมาเป็นบวก ขณะที่ลูกชายเริ่มมีอาการไข้ ไอ ถ่ายเหลวเข้าข่ายติดเชื้อโควิด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จ่ายยาพาราเซตามอลและน้ำเกลือประทังไปพลางก่อน หากอาการไม่ดีขึ้นก็จะนำตัวไปรักษาตามขั้นตอนต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- หลวงพี่ขับเก๋งชนราวสะพาน เผยเดินทางดูแลโยมแม่ ชาวบ้านวอนหยุดดราม่า-ตรวจสอบความจริง
- ประชาชนแห่ เสกเหรียญหลวงปู่คำไหล ในพระมหาเจดีย์วัดดัง แห่ตีเลขน้ำตาเทียน หลังสาธุชนนับพันแห่ร่วมพิธี
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
นายคมกริช พรรณวงศ์ ผอ.รพ.สต.เวินพระบาท เปิดเผยว่าคาดว่าครอบครัวนี้น่าจะติดเชื้อทั้งบ้าน เพราะผลตรวจและอาการเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ซึ่งทางทีมสาธารณสุขได้ตรวจคัดกรองชาวบ้านในพื้นที่แล้ว ผลจะออกมาราว 2-3 วัน ซึ่งในช่วงปิดบางส่วนของบ้านเวินพระบาทหมู่ 1 จะมีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องไปล้างแผลจากการผ่าตัดทุกวันประมาณ 2 ราย จึงอำนวยความสะดวกด้วยการให้พยาบาลประจำ รพ.สต.เวินพระบาท เข้ามาทำการล้างแผลให้ที่บ้าน
ขณะที่นายวันชัย พึ่งเมือง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเวินพระบาท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเทศบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาช่วยสมทบกับฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน ในการเข้าเวรยามระหว่างล็อกดาวน์ 7 วัน และจัดเสบียงกาแฟ น้ำดื่ม อาหารกล่องจนกว่าจะเปิดหมู่บ้าน หากขาดเหลืออะไรก็ให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หญิงวัย 59 ปีที่เป็นผู้ป่วยรายแรกของเคสนี้ ได้ให้รายละเอียดกับทีมสอบสวนโรคไม่ครบถ้วน หรืออาจต้องการปิดไทม์ไลน์ของตัวเอง เนื่องจากแจ้งประวัติการเดินทางว่าเดินทางไปส่งปูนซิเมนต์กับสามีที่จังหวัดอุบลฯแล้วก็กลับบ้าน ไม่ได้เดินทางไปไหนอีกจนมรอาการป่วย แต่จากการให้รายละเอียดของสามีกลับตรงกันข้าม เพราะได้ให้ไทม์ไลน์ว่าหลังจากไปส่งปูนที่จังหวัดอุบลฯ แล้ว ก็นำรถบรรทุกไปซ่อมที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาบ้านได้เพียง 2 วันภรรยาก็ป่วยติดเชื้อโควิด
ทั้งนี้จังหวัดสระบุรีเป็นพื้นที่สีแดงเข้มตามมติศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยในขณะที่มติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม มีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 (แก้ไขเพิ่มเติม 17 กรกฎาคม) ว่า บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม 34 จังหวัดต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชน และกักตัวที่สถานกักตัว (Local Quarantine: LQ) ส่วนในรายนี้ปกปิดข้อมูลไม่ยอมไปรายงานตัว จนนำมาสู่การแพร่ระบาดดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: