นครพนม – ญาติสะอื้นเก็บอัฐิหนุ่มไรเดอร์ผู้อาภัพ อดีตเมียแยกเผาลูกสาวที่วัดบ้านเกิด จุดธูปให้หมดห่วงจะเลี้ยงคนเล็กเป็นคนดีของสังคม
วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. นางสมคิด อินทรา อายุ 55 ปี มารดาของนายระฆังเงิน อินทรา หรือนัท อายุ 30 ปี หนุ่มไรเดอร์รับส่งอาหารที่เสียชีวิตจากการจมน้ำพร้อมกับลูกสาว ด.ญ.กุลนาถ อินทรา หรือน้องโมจิ อายุ 7 ขวบ ได้เดินทางมาที่เมรุวัดมหาธาตุ ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมกับญาติๆและเพื่อนร่วมงาน เพื่อเก็บอัฐิของลูกชายหลังทำพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวานนี้ โดยศพของน้องโมจิผู้เป็นแม่คือนางสาวลลิตา วงศ์ษา อายุ 30 ปี อดีตภรรยาของผู้ตาย ได้ขอนำร่างลูกสาวแยกไปฌาปนกิจที่เมรุวัดบ้านนาสมดีหมู่ 9 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม โดยช่วงเก็บอัฐิบรรจุใส่โหลแล้วเพื่อนำไปบรรจุไว้ในโกศธาตุทุกคนต่างร่ำไห้สะอื้น เพราะยังทำใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ แม้กระทั่งพระที่นำสวดก็ยังมีเสียงสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด
เหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เวลาประมาณ 18.30 น. นายระฆังเงิน อินทรา หรือนัท อายุ 30 ปี ได้ชักชวนน้องโมจิลูกสาวคนโตพร้อมสุนัขพันธุ์ทางเพศผู้ 2 ตัว ไปเดินวิ่งออกกำลังริมเขื่อนแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร พอมาถึงบริเวณโป๊ะที่กลุ่มชมรมนกเป็ดน้ำสร้างไว้สำหรับเล่นกีฬาทางน้ำ อยู่เยื้องกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม น้องหมา 2 ตัววิ่งไปที่โป๊ะหยอกล้อกัน ปรากฏว่าพลาดตกลงน้ำโขง น้องโมจิเห็นด้วยความไร้เดียงสาจึงกระโดดน้ำหวังช่วยน้องหมา โดยไม่รู้ว่าน้ำโขงลึกขนาดไหน นายนัทผู้เป็นพ่อเห็นก็รีบกระโดดลงไปช่วยลูกสาว พร้อมตะโกนร้องเรียกให้คนอยู่บริเวณนั้นช่วย เนื่องจากตนเองและลูกว่ายน้ำไม่เป็น ประกอบกับนายนัทสวมใส่ชุดวอร์มที่อุ้มน้ำ ทำให้สองพ่อลูกหมดแรงกอดกันจมหายไปกับสายน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำใช้เวลางมอยู่นานนับชั่วโมง ก็พบร่างทั้งคู่กอดกันอยู่ก้นแม่น้ำ จึงนำขึ้นมาชันสูตรโดยมีสุนัข 2 ตัวเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง นับเป็นภาพที่เวทนาต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก
หลังพบศพมีเพื่อนร่วมงานของนายนัท ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดสะสม เนื่องจากก่อนหน้านี้นายนัทกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนค้าขายกว่าแสนบาท ปรากฏว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดจึงขาดทุนย่อยยับ ประกอบกับเริ่มมีปากเสียงกับภรรยาบ่อยครั้ง เกี่ยวกับการเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งคู่จึงแยกทางกันอยู่ได้ราวปีเศษ นายนัทก็หันมาเป็นไรเดอร์ขับรถ จยย.รับส่งอาหารในเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยรับภาระดูแลลูกสาว 2 คน คือน้องโมจิอายุ 7 ขวบ และคนเล็กอายุ 4 ขวบ โดยอาศัยบ้านเช่าอยู่กับพ่อแม่ในชุมชนวัดโอกาส เพื่อนร่วมงานจึงกล่าวว่าอาจเป็นสาเหตุให้นายนัทถึงทางตันคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ภายหลังทางครอบครัวผู้เสียชีวิตออกมายืนยันว่า นายนัทไม่ได้ฆ่าตัวตายตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะเป็นคนสู้ชีวิตไม่ท้อที่จะพบกับความยากลำบาก นิสัยส่วนตัวเป็นคนขยันทำมาหากิน และรักลูกสาวสองคนนี้มาก เชื่อว่าไม่คิดสั้นแน่นอน เกิดจากอุบัติเหตุตามที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ทางญาติได้อธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณ 2 พ่อลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องห่วงกังวลสิ่งใดโดยลูกสาวคนเล็กจะช่วยกันเลี้ยงดูให้เป็นคนดีของสังคมต่อไป
