สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วสกัดแก๊งลักลอบก่อนถูกส่งข้ามไปยังกัมพูชา โดยเจ้าของรถถึงกับหลั่งน้ำตาทั้งตอนรถหายและหลังรู้ว่าได้รถคืน เพราะรักรถมาก ซึ่งสามารถจับกุมได้ยกแก๊งเพียงข้ามวัน
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “รถใคร ใครก็รัก แต่ดันมีคนลักมา ดีใจกับน้องเจ้าของรถทั้ง 2 คันด้วย อีก 50 กม.รถก็ไปอยู่ต่างประเทศแล้ว เจ้าของรถตอนรถหายก็ร้องไห้ โทรวีดีโอคอลให้ดูรถก็ยังร้องไห้ดีใจที่ได้รถคืน” โดยการสกัดจับแก๊งลักรถส่งไปยังประเทศกัมพูชาดังกล่าว เป็นไปตามแผนโครงการสกัดกั้นลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในห้วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ซึ่ง พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนเพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว และ ขบวนการโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดปฏิบัติการที่ 4 หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำกำลังโดย พ.ต.ท.จรูญ เปรมกระโทก สว.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว จึงได้นำกำลังพร้อมลูกชุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สระแก้ว และตำรวจ สภ.บ้านทับใหม่ ซุ่มดูรถต้องสงสัย บนถนนสุวรรณศร ทางหลวงสาย 33 ที่บริเวณ ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้ระยะหนึ่ง จึงได้มีรถยนต์กระบะสีขาว ยี่ห้ออีซูซุ ตีตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ยค-9680 ชลบุรี และรถยนต์กระบะคอกสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ใส่คอก หมายเลขทะเบียน บพ-80 สระแก้ว ขับผ่านมา และได้เลี้ยวไปทางถนนลูกรัง บริเวณบ่อกำจัดขยะ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นลักษณะรถคันดังกล่าวผิดสังเกต จึงได้ขับรถติดตามไป
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมาถึงบริเวณบ่อขยะ ต.โนนหมากเค็ง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรถยนต์ทั้ง 2 คัน ให้จอด พบ นายดนุพล รัตนะดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/26 ม.5 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ขับรถกระบะ ทะเบียน ยค-9680 ชลบุรี คันที่บรรทุกรถจักรยานยนต์รถของกลาง และพบ นายจิรศักดิ์ แสวงสุข อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.19 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคอก หมายเลขทะเบียน บพ-80 สระแก้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นพบว่า ภายในรถกระบะคันตู้ทึบ มีรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ยี่ห้อสตาร์เลี่ยน สีดำ หมายเลขทะเบียน 6กจ-1561 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคูป สีครีม หมายเลขทะเบียน 8กฎ-4550 กรุงเทพมหานคร จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบฐานข้อมูลของรถจักรยานยนต์ทั้งสองคัน ปรากฏว่า รถทะเบียน 8กฏ-4550 กทม.เป็นของ น.ส.จีรวรรณ กระแสอินทร์ อายุ 28 ปี อยู่ที่ 97/1 ม.1 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แจ้งหายที่ สภ.ปากเกร็ด เมื่อเวลา 16.39 น.ของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณท่าเรือวัดสนามเหนือ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด ส่วนอีกคันเป็นของ นายมนวัต สมบัติ ที่อยู่ 328/29 ม.6 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี แจ้งหายที่ สภ.ปากเกร็ด เมื่อเวลา 08.37 น.วันเดียวกัน ที่หน้า รร.วัดกลางเกร็ด ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาและรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันไว้ได้ภายใน 1 วันก่อนถูกส่งข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา โดยประสานแจ้งเจ้าของรถรายดังกล่าว เพื่อเดินทางมารับรถของกลางคืนต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองราย ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
—————————
ข่าวโดย/อภัสรา เที่ยงพาน ทีมข่าวสระแก้ว
