กรุงเทพฯ – ผู้กำกับโจ้ เปิดใจ ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่เกี่ยวเพราะทำตามคำสั่ง สาบานไม่เคยเรียกรับเงิน อ้างเหตุพลั้งมือต้องการเค้นขยายผลยาเสพติด สั่งถอดกล้องวงจรปิดเพราะช็อก
วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ความคืบหน้าคดีที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกอีก 6 คน ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยการกระทำทารุณโหดร้าย หลังใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด กระทั่งเสียชีวิต
ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำแถลงข่าวถึงการจับกุมผู้กำกับโจ้ ที่กองบังคับการปราบปราม หลังสอบปากคำด้วยตัวเอง โดยกล่าวขอโทษประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ยืนยันว่าองค์กรตำรวจ เป็นองค์กรที่ตรวจสอบได้ ไม่เคยมีใครทำผิดแล้วหลบหนีไปได้ ได้ดำเนินการเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะยศอะไร ตั้งแต่ ผบ.ตร. ลงไปถึงลูกแถว ไม่เคยปกป้องคนทำผิด นำทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ด้านผู้กำกับโจ้ ประสงค์จะแถลงข่าวด้วยตัวเอง ผ่านทางโทรศัพท์ (โฟนอิน) เข้ามาในห้องแถลงข่าว พร้อมตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีลูกน้องมาบอกว่า จับผู้ต้องหายาเสพติดได้ เป็นยาไอซ์ 1 กิโลกรัม และยาบ้าเกือบ 2 หมื่นเม็ด พยายามสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่ยอมบอกความจริง จึงต้องเค้นสอบและพลั้งมือไป
“ขอยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง แต่เพราะต้องการเอาข้อมูล และทำลายยาเสพติดที่ทำร้ายพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ ขอยอมรับผิดแทนลูกน้องทุกคน เพราะพวกเขาห้ามผมแล้ว ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะเป็นนายสั่งลูกน้องก็ต้องทำ ยืนยันทำเพื่องาน ไม่มีเรื่องเงิน ยอมรับเอาถุงคลุมผู้ต้องหาจริง แต่เจตนาคือไม่อยากให้เห็นหน้าเรา แต่ผู้ต้องหาพยายามฉีกถุง จึงจำเป็นต้องมัดเขา หลังจากนั้นได้ใส่กุญแจมือไขว้หลัง”
ผู้กำกับโจ้ ยังยืนยันว่า ไม่เคยเรียกรับเงิน แต่ทำพลาดไปเพราะต้องการข้อมูล “ผมสาบานได้เลยว่าไม่เคยเรียกรับเงิน ตอนจับชีพจรของน้องเขายังหายใจ ผมยอมรับผิดทุกกรณี ผมขอกราบขอโทษพี่น้องประชาชน แต่ผมพลาดไป ขอโทษคุณพ่อคุณแม่น้อง ไม่ได้เจตนาจริง ๆ ที่ทำเพราะผมต้องการข้อมูล ผมผิดเองทำให้องค์กรเสียหาย อยากขอโทษ ผบ.ตร. อยากขอโทษองค์กร ยืนยันว่าไม่มีการตบทรัพย์”
ผู้กำกับโจ้ ยืนยันอีกว่า ไม่ได้ให้เงินพ่อผู้ต้องหาที่เสียชีวิต แค่ช่วยงานศพไป 30,000 บาท ตอนเกิดเหตุรู้สึกช็อก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่เคยซ้อมผู้ต้องหามาก่อน สำหรับเรื่องการสั่งถอดกล้องวงจรปิด เพราะช็อก อายุน้อย ประสบการณ์น้อย อีกอย่างมีกล้องบางตัวเสีย ส่วนที่เอาน้ำสาดเพราะคิดว่าสลบ ก็เลยทำเพื่อให้ตื่น
เมื่อถูกถามเรื่องการครอบครองรถหรู ผู้กำกับโจ้ ชี้แจงว่า มีเอกสารรับรองว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกต้อง ผ่านทางทนายความ
ทั้งนี้ หลังการสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการนำตัวผู้ต้องหา ส่ง สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
