เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด นำผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และเพิ่งหายป่วยจากโควิด 19 เข้าฟื้นฟูในศูนย์แยกโรคชุมชน (CI) ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านเพื่อความปลอดภัยแก่สังคม
ที่วัดบ้านอ้น ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำอดีดผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษ และเพิ่งหายป่วยจากโควิด -19 เข้าฟื้นฟูในศูนย์แยกโรคชุมชน (CI) วัดบ้านอ้น ก่อนปล่อยตัวกลับคืนสู่สังคม เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยมีพระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ เจ้าอาสวัดบ้านอ้น ปลัดอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมอำนวยความสะดวก
นายเกษมศานย์ บุญญจินดา นิลวงศ์ บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า มีอดีตผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวน 103 คน ในจำนวนนี้เราได้นำมาทำการพักฟื้นที่ศูนย์แยกโรคชุมชน (CI) วัดบ้านอ้นจำนวน 48 คน หลายคนเพิ่งหายป่วยจาก โควิด-19 คลัสเตอร์ในเรือนจำฯ และผ่านการพักรักษาตัว 14 วันมาแล้ว แต่เราต้องการสร้างความมั่นใจให้กับสังคม ก่อนที่เขาเหล่านี้จะกลับไป ซึ่งบางคนเราก็ไม่แน่ใจว่ามีเชื้อโควิด-19 หลงเหลืออยู่หรือไม่ แต่ทางการแพทย์บอกว่า ผู้ที่หายป่วยใหม่ๆสามารถที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่นได้
จังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มีนโยบายให้เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ปกป้องสังคมให้ปลอดภัยจากโควิด-19 เพื่อสุขภาพของคนในพื้นที่ ที่คนเหล่านี้จะไปอาศัยอยู่ ให้เกิดความมั่นใจว่าเขา ได้ผ่านการพักฟื้นมาแล้ว 14 วัน เชื้อจะไม่มีในร่างกาย และเขาจะมีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติจากการที่เคยเป็นผู้ป่วยมาด้วย
ปัจจุบันสถานะพวกเขาคือประชาชนเหมือนพวกเรา เพียงแต่ว่า เราให้การดูแลเขาเรื่องสุขภาพ ซึ่งเราได้รับความเมตตาจาก พระพระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้น ซึ่งก่อนหน้านี้สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ในการดูแลรักษากลุ่มผู้ป่วย ติดเชื้อ โควิด-19 และผู้ป่วยหายกลับบ้านหมดแล้ว ให้ใช้สถานที่ดังกล่าวซึ่งมีความพร้อม สะอาด มีความเหมาะสม ในการที่จะปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชนกลุ่มนี้ อันจะเป็นการปกป้องประชาชนสังคมให้ปลอดภัยด้วย
ก่อนหน้านี้เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ต้องถูกคุมขังกว่า 2,800 ราย พบการระบาดของ โควิด-19 คลัสเตอร์ใหญ่ ทำสถิติสูงสุด มีผู้ต้องขังตืดเชื้อฯสะสมจำนวน 1,083 คน เสียชีวิตสะสม 5 ราย หายป่วยแล้วประมาณ 600 คนเศษ และกำลังจะหายป่วยอีกประมาณ 300 คนเศษ ควดว่าอีกไม่กี่วันนี้ก็จะไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลงเหลืออยู่ภายในเรือนจำแล้ว ปัจจุบันมีแต่กลุ่มสีเขียว สีอื่นไม่มี ส่วนนักโทษที่ยังไม่ป่วย ไม่พบเชื้อ ทางโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ก็ไดจัดส่งทีมแพทย์ พยาบาล เข้าตรวจ และฉีดวัคซีนให้ทุกคนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน จึงขอให้พี่น้องประชาชน ตลอดจนญาติของนักโทษในเรือนจำสบายใจได้ เพราะเรากำลังจะกลับสู่สภาวะปกติ
อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานสำเร็จลุล่วงด้วยดีตามนโยบายของทางจังหวัดได้นั้น ก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น วัดบ้านอ้น ตลอดจน อสม.ที่ร่วมมือกัน สามัคคีกัน ในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ
- พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ บอกว่า การที่ทางวัดบ้านอ้นได้ให้สถานที่ของวัด จัดตั้งเแ็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดห้วงที่ผ่านมา สืบเนื่องจากจำนวนโรงพยาบาลสนามที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นนั้น ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยชาวร้อยเอ็ด ที่เดินทางจากพื้นที่สีแดงกลับมายังภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง ในคราวที่เกิดภัยภิบัติ เกิดโรคระบาด วัดไม่เคยทอดทิ้งญาติ โยม กระทั่งผู้ป่วยโควิด-19 ที่เคยมารักษากว่า 100 ราย หายป่วยกลับบ้านหมดแล้ว และทางเจ้าหน้าทีาได้ทำความสะอาดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อสถานที่เรียบร้อย วันนี้เป็นอีกครั้งที่กลุ่มคนเหล่านี้มาอยู่ร่วมกันแบบพี่แบบน้อง ให้คิดว่าที่นี่เปรียบเสมือนบ้านของตนเอง ซึ่ง อาตมาได้คุยกันกับผู้บัญชาการเรือนจำว่า มีเจตนาที่จะให้ทุกคนปลอดจากเชื้อโควิด เป็นคนที่ขาวสะอาด ปราศจากโรคอันตรายก่อนกลับคืนสู่ชุมชน ฉะนั้นแล้วเมื่อมาอยู่ด้วยกันต้องรักษากฎ กติการ่วมกัน รักษาความสะอาด การทิ้งขยะการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม การใช้เครื่องซักผ้า อุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีระบบระเบียบ
มีน้ำดื่มที่สะอาดให้ โดยทางจังหวัด อำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อทำอาหารให้กับทุกคนได้รับประทานวันละ 3 มื้อ และช่วงเวลาประมาณ 19:00 น. ของทุกวัน อาตมา-พระสงฆ์ ก็จะพาทุกคนสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิแผ่เมตตาก่อนนอน เพื่อให้ทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดี มีความสงบ มีความมุ่งมั่นที่จะกลับตัวเป็นคนดีของสังคม และขอให้ทุกคนอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ แม้ว่าทุกคนจะผ่านการรักษาจนไม่มีเชื้อมาแล้วด็ตาม ตลอดจนญาติที่นำสิ่งของมาส่ง หรือเยี่ยมต้องไม่ประมาทเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: