นายแพทย์ปฎิวัติ วงศ์งาน รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลสมุทรปราการ ได้ออกมายอมรับเหตุผู้ที่มาส่งผู้ป่วยโควิดกับพนักงานเวรเปลเกิดขึ้นจริง โดยได้ตั้งทีมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
จากกรณีที่ มีคลิปวงจรปิด เจ้าหน้าที่รับส่งผู้ป่วยเทศบาลแห่งหนึ่ง กับ เจ้าหน้าที่เวรเปลโรงพยาบาลกำลังวางมวยกันในโรงพยาบาล บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น และในวันนี้ที่ 1 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
- ธุรกิจโก-ลกเริ่มหวั่น! นทท.ลดฮวบ-หลังมาเลย์ดีเดย์ 1 ธค.เข้า-ออกผิดกฎหมาย - จับทันที
โดยได้รับการเปิดเผยจาก นายแพทย์ปฎิวัติ วงศ์งาน รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลสมุทรปราการ ว่า เท่าที่ได้รับรายงานมาพบเป็นเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ที่มาส่งผู้ป่วยโควิดกับพนักงานเวรเปล โดยได้ตั้งทีมคณะสอบสวนข้อเท็จจริง ผลเบื้องต้นน่าจะมีมูลในพฤติกรรมที่น่าจะเป็นความผิด โดยขั้นตอนต่อไปก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดด้านวินัย โดยจากการตรวจสอบจากคลิปวีดีโอที่บันทึกได้ค่อนข้างมีพฤติกรรมควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ โดยเหตุเกิดจากที่มีทีมมาส่งผู้ป่วยโควิด ทีมที่มาส่งใส่ชุด ppe ครบถ้วน ส่วนเวรเปลสวมชุดเวรเปลธรรมดาไม่ได้สวมชุดป้องกันได้เข็นเปลเข้ามาให้ และ อยากให้ไปส่งถึงตัวเต็นท์เลย ซึ่งห่างออกไปประมาณ 20 เมตร ทางทีมที่มาส่งถามว่าทำไมไม่ช่วยกัน ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน มีการดึงเสื้อ ผลักอก และ มีชกต่อยกัน ตามคลิปโดยเหมือนคนของเราเป็นฝ่ายต่อย
โดยจากการสอบถามที่ไม่ช่วยเนื่องจากเวรเปลไม่ได้สวมชุดป้องกัน โดยความผิดอยู่ที่การควบคุมอารมณ์การทำงานร่วมกัน ควรจะควบคุมอารมณ์ได้มากกว่านี้ โดยในสถานการณ์ที่ทุกคนทำงานหนักอาจจะมีการควบคุมอารมณ์กันไม่อยู่ได้ โดยเบื้องต้นเวรเปลคนดังกล่าว ได้ให้ย้ายไปทำงานอยู่ในแผนกซักฟอก และ งดโอที ในระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดมาจากการไม่เข้าใจในการแบ่งหน้าที่การทำงาน โดยเท่าที่ได้ข้อมูลมายังไม่พบสาเหตุอื่นที่ทำให้ทะเลาะกัน และเมื่อวานท่านรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาท่านนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลบางเมือง ซึ่งเป็นหน่วยคู่กรณี เพื่อเชิญตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้มาให้ข้อมูลจะได้ไม่เป็นการฟังความฝ่ายเดียว ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่อย่างที่บอกไปเบื้องต้นคดีน่าจะมีมูล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเกิดขึ้นเป็นธรรมดาแต่ก็ไม่เคยจนถึงขั้นชกต่อยกันขนาดนี้ ส่วนการลงโทษคงต้องพิจารณาจากผลของการสอบสวนก่อน ส่วนบทลงโทษสูงสุดก็คือให้ออก ถ้ามีความผิดจริง เรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะดูว่าเป็นเรื่องแค่ทะเลาะกันเพียงเล็กน้อย แต่มองว่าเป็นเรื่องของการควบคุมอารมณ์และควบคุมความโกรธ ซึ่งถ้าควบคุมไม่ได้สถานการณ์มันอาจจะรุนแรงกว่านี้ เพราะฉะนั้นถ้าน่างานตรงนี้ยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็คงจะไม่เหมาะที่จะปฏิบัติงานตรงนี้ ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่าผิดจริงที่ลงไม้ลงมือ แต่ก็ยังไม่ได้ลงในเรื่องรายละเอียด ซึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวน ถ้าเราพบว่าการสืบสวนมีมูลความผิดก็จะไปสู่คณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลบางเมือง คู่กรณี แต่ได้รับคำตอบไม่พร้อมที่จะให้ข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กู้ภัยกับเวรเปลเปิดศึกวางมวยกันหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ
รอง ผอ.โรงพยาบาลสมุทรปราการ ยอมรับเกิดขึ้นจริงตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
คืบหน้า เจ้าหน้าที่เวรเปลวางมวยกับกู้ภัยที่นำผู้ป่วยโควิดไปส่ง ปลัดออกมาเผยทุกอย่างต้องมาคุยกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: