สระแก้ว – ส่งกลับเมืองไทยแล้ว 6 คน จากจำนวนคนไทย 13 คน ที่ร้องเรียนและขอความช่วยเหลือผ่านสื่อและสถานทูตไทยฯ หลังถูกหลอกไปทำงานแอดมินคาสิโนออนไลน์เมืองสีหนุวิวล์ โดยได้รับการช่วยเหลือออกแล้ว 7 ราย ส่วนเพื่อนอีก 6 ราย ยังไม่ทราบชะตากรรม ขณะที่ สน.ปทก.ประสานขอส่งตัวคนไทยที่ทำงานในเมืองปอยเปตอีก 13 คน ที่ป่วยกลับมารักษาที่เมืองไทยด้วย
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 3 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ารับตัวคนไทย 6 คน จากทั้งหมด 13 คน ส่วนใหญ่เป็นชาว จ.ชลบุรี ที่ร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อและสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ หลังถูกหลอกไปทำงานเป็นแอดมินคาสิโนออนไลน์ เมืองสีหนุวิวล์ จังหวัดกัมปงโสม ห่างจากชายแดน จ.สระแก้ว ประมาณ 600 กิโลเมตร อ้างว่า รายได้ดี กินอยู่ฟรี รวมทั้งไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยลักลอบออกนอกประเทศไทยไปกัมพูชาผ่านทาง จ.สระแก้ว ช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ถูกยึดบัตรประจำตัวประชาชนและห้ามใช้โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสาร จนกระทั่งมีการติดต่อญาติเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายทุนชาวจีน ได้เรียกเงินคนละ 18,000 ดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 540,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวกลับประเทศไทย จึงร้องขอให้ทางการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือมาได้ 7 คน จากทั้งหมด 13 คน
ทั้งนี้ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อขอรับตัวคนไทยทั้ง 7 คน กลับประเทศ กระทั่งได้รับอนุญาตจากทางการกัมพูชา ให้ส่งกลับคนไทยทั้ง 7 คน ในช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่ง 1 ในจำนวน 7 คนคือ น.ส.จีรภัทร์ วิลาม ไม่ได้ข้ามมาเนื่องจากต้องการรอแฟนที่เดินทางมาจากพนมเปญก่อน ทำให้มีคนไทยที่ประสบปัญหาดังกล่าว เดินทางกลับมาเพียง 6 คน ประกอบด้วย 1.นายธีทัต จันดี , 2.นายพงศกร จันทนา , 3.นายเดช พระชัย , 4.นายอภิรักษ์ บุญญารุ่งเรือง , 5.นายสุเมศ พรมเมศ และ 6.น.ส.รัมภา รัมภาภัสร์ ซึ่งภายหลังตรวจคัดกรองโดยหน่วยควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และ ตม.สระแก้ว จึงนำตัวไปกักตัวอีก 14 วัน ที่โรงแรมสเตชั่นวัน โฮเทล เลขที่ 41 ถ.ธนะวิถี ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันที่เหลืออีกจำนวน 6 คน ขณะนี้ยังติดอยู่ในที่ทำงานไม่ทราบชะตากรรม
ข่าวน่าสนใจ:
- พิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
- ขอนแก่น เอาจริงลุยปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ได้ผู้ต้องหา 4 ราย หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส
แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า มีญาติของกลุ่มคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ฝั่งกัมพูชาร้องทุกข์ว่า กลุ่มคนไทยติดโควิด 6 คน กำลังเดินทางจากฝั่งกัมพูชาจะมาเข้าที่ด่านคลองลึก ซึ่งหนึ่งในนั้นใช้เฟซบุ๊กประสานข้อมูลขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.สระแก้ว โดยติดต่อผ่านทาง messenger ของเฟซบุ๊ก บอกว่า ทั้งหมดเป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน ได้หลบหนีนายจ้างออกมา เพื่อเดินทางกลับประเทศโดยยังไม่มีการแจ้งหน่วยใด โดยได้ว่าจ้างรถจากเมืองเสียมเรียบ เพื่อมาที่ด่านปอยเปต ซึ่งคนขับบอกว่า จะถึงประมาณ 3-4 ทุ่มเมื่อวานนี้ และช่วง 4 ทุ่ม คนขับได้นำเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากด่านปอยเปตประมาณ 100 กม.เพื่อเดินทางต่อในช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ย.64) กระทั่งได้รับการประสานจากสถานทูตและจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือจนสามารถข้ามแดนได้เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ส่วนคนไทยอีก 6 คน ที่ยังติดอยู่ในที่ทำงานที่เสียมเรียบ เจ้าหน้าที่บอกว่า ได้แจ้งทางสถานทูตไทยฯทราบแล้ว อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา เป็นกรณีพิเศษ อีกจำนวน 13 คน ภายหลัง พ.อ.ชัยรัฐ เตระวิชชนันท์ รองหัวหน้าส่วนปฏิบัติการสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทำการแทนหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับการร้องขอจากสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ขอให้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ราษฎรไทยเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและบันเตียเมียนเจย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยที่ทำงานในบ่อนคาสิโนปอยเปต ที่เจ็บป่วยจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 13 คน กลับมารักษาที่ รพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์ 6 คน และ รพ.อรัญประเทศ อีก 7 คน ด้วย
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: