X

ตามมานาน ตำรวจภาค 3 จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไป ๒,๔๒๘,๐๐๐ บาท

ตามมานาน ตำรวจภาค3 จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไป ๒,๔๒๘,๐๐๐ บาท

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.๓ พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.๓ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.ฯ รรท.รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ กองกำกับการสืบสวนตารวจ ภูธรจังหวัดนครราชสีมา นาโดย พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.พรเทพ ทุ้ยแป พ.ต.ท.มณฑล หงษ์กลาง รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมาพฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ในห้วงปี พ.ศ.๒๕๕๔ ต่อเนื่องจนถึง พ.ศ.๒๕๕๖ ได้มีเหตุคดีสำคัญเกิดขึ้นและคนร้าย ได้ก่อเหตุในลักษณะเป็นขบวนการ โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันทาการหลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถจัดหางานเพื่อให้คนงานไปทางานที่ประเทศเกาหลีได้ โดยในคดีนี้ มีผู้เสียหาย หลงเชื่อและจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ เป็นจานวนหลายราย และ มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ ในท้องที่เกิดเหตุทั้งหมด ๗ สภ. แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา ๕ สภ. ได้แก่ สภ.จักราช,สภ.ประทาย,สภ.ห้วยแถลง,สภ.เมืองพลับพลา,สภ.ชุมพวง และ จ.บุรีรัมย์ ๒ สภ. ได้แก่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และสภ.ลาปลายมาศ โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดาเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดหางานเพื่อให้คนหางานไปทางานยังต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน หลอกลวงคนหางานว่าสามารถจัดหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และจากการหลอกลวงดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของผู้ถูกหลอกลวง” ซึ่งในขบวนการนี้ มีผู้ร่วมกระทำผิด ด้วยกันทั้งหมด ๖ คน ซึ่งผู้ต้องหาจำนวน ๔ คน ถูกจับกุมและดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังคงเหลือ ผู้ต้องหา ๒ สามีภรรยา ซึ่งเป็นตัวการสาคัญในคดีนี้ยังหลบหนีมานาน กว่า ๑๐ ปี คือ นายสมบุญ ดวงเกตุ และ นางบุญ ดวงเกตุ สามีภรรยา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ มีหมายจับคนละ ๑๑ หมายจับ รวม ๒๒ หมายจับ มูลค่าความเสียหายที่หลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไป รวม ๒,๔๒๘,๐๐๐ บาท

เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีสำคัญที่มีลักษณะการก่อเหตุ ที่เป็นขบวนการ มีเหตุเกิดต่อเนื่องหลายท้องที่ มีผู้เสียหายจำนวนมาก และยังมีมูลค่าความเสียหายกว่า ๒.๔ ล้านบาท พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา เร่งรัดติดตามสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้มาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วพ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย หัวหน้าชุด ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมทีมสืบสวน ดำเนินกสนสืบสวนจนทราบว่าในห้วงที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนทราบว่า กาลังจะถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้มีการไปทำหนังสือเดินทางไทย เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔ และ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน ได้เดินทางข้ามไปยังประเทศกัมพูชา บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และได้เดินทางกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย ในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ต่อมาในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๑๕๕๔ ผู้ต้องหา ได้เดินทางออกนอกประเทศ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางที่ประเทศเกาหลี

ชุดสืบสวน จึงได้ดำเนินการสืบสวนทางสื่อโซเชียลต่างๆ จนทราบว่า ผู้ต้องหาสองสามีภรรยานี้ ได้ไปทางานอยู่ที่ Cheongbuk-myeon, Pyeongtaek-si, Gyeonggi-do, Korea ประเทศเกาหลี จึงได้ทำหนังสือ จำก กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมาถึง กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเรื่อง ขอความอนุเคราะห์ ติดตามผู้ต้องหาหลบหนีต่างแดน จากนั้นประสานตำรวจเกาหลี ดำเนินการช่วยตรวจสอบข้อมูล จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจเกาหลีได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ในข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตหมดอายุ” และทางการเกาหลีจะต้องทำการสอบสวนความผิด และดำเนินการผลักดันกลับมายังประเทศไทย ต่อมาจึงได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองการต่างประเทศ เพื่อประสานงานในการรับตัวจนกระทั่งเมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๔ ชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่าผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน ได้ถูกผลักดันจากประเทศเกาหลีและเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้วยเอกสารการเดินทางชั่วคราว และจะถึงประเทศไทยช่วงกลางคืน จึงได้ประสานกับตารวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและตารวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดาเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน