นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก – อดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้ทำไมเปิดแค่ 2 ตำบลหัวหิน ควรเปิดทั้งจังหวัดประจวบฯ เชื่อมโยงเพราะมีศักยภาพ และอยากเห็นการทำตลาดคนไทย มากกว่าที่จะตั้งเป้าเอาตลาดต่างประเทศเป็นหลัก และเน้นควรยึดหลักการเปิดต้องเกิดประโยชน์ กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกระดับ สิ่งสำคัญหัวหินเองพบคลัสเตอร์โควิด-19 ต่อเนื่อง ขณะที่อำเภอชะอำ ดีเดย์เปิดท่องเที่ยว 1 ตุลาคม นี้เน้นตลาดคนไทยเป็นหลักต่างชาติเสริม
ข่าวน่าสนใจ:
วันที่ 7 กันยายน 2564 นายอุมดมสุข นิ่มเซียน อดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารกันตา รีอสร์ทหัวหิน กล่าวว่าโครงการนำร่องหัวหิน รีชาร์ท วัตถุประสงค์คือต้องการให้สามารถควบคุมนักท่องเที่ยวให้อยู่ในกรอบได้ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค แต่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ไม่เหมือนกับภูเก็ตซึ่งเป็นเกาะสามารถควบคุมได้ง่ายหากนักท่องเที่ยวมาโดยเฉพาะต่างประเทศ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่ยาวมีเขตอำเภอเชื่อมต่อกันซึ่งการเดินทางสามารถไปมาหาสู่ได้สะดวกทั้งแนวลาบและแนวดิ่งและมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมวัดวาอารามที่ขึ้นชื่อ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรน้ำตกภูเขา เชิงวิถีชุมชนเที่ยวได้ทั้งทางบกทางน้ำซึ่งแต่ละอำเภอมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน เที่ยวทั้งเดือนก็ไม่จบไม่หมดเพราะประจวบฯนั้นยาวมาก เพราะฉะนั้นการเปิดการท่องเที่ยวน่าจะเปิดทั้งจังหวัดประจวบฯเพราะรายได้จากการท่องเที่ยวมิใช่ได้จากอำเภอหัวหินอำเภอเดียว ที่สำคัญหากนักท่องเที่ยวมาเขาคงไม่เลือกอำเภอหัวหินอย่างเดียว รวมทั้งหากมีนักท่องเที่ยวติดเชื้อเข้ามาเชื้อโควิด-19ก็คงไม่เลือกติด ณ อำเภอใดอำเภอหนึ่ง คงจะติดกันทั้งหมด
อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ กล่าวอีกว่าเหมือนกับมาตรฐาน SHA” ทำไมไม่ปูพรมตั้งแต่ร้านอาหารแผงลอยหาบเร่ร้านอาหารเล็กร้านอาหารใหญ่ร้านขายของที่ระลึกโรงแรมเล็กโรงแรมใหญ่ก็น่าจะทำให้หมด เพราะบางกิจการเป็นชาวบ้านหรือผู้ที่เข้าไม่ถึงก็ไม่ไม่สามารถเข้ารับการรับรองมาตรฐานนี้ได้ ซึ่งวัตถุประสงค์ผมว่าไม่น่าจะใช้เพื่อถ่ายรูปดูเท่ๆแต่วัตถุประสงค์จริงคือรับรองว่ามีมาตรฐานและปลอดภัยในการดูแลควบคุมป้องกันมากกว่า ตรงนี้ต้องฝากท่านผู้นำทั้งหลายด้วย “เชื้อโควิด-19ไม่ได้เลือกติดเฉพาะที่ใดที่หนึ่งเชื้อโควิดไม่เคยเลือกใครไม่เคยเลือกสถานที่ไม่ใช่มีป้ายมาตรฐานSHA แล้วจะไม่ติดโควิด” อีกอย่างเราก็ไม่น่าจะต้องไปเรียนแบบของที่อื่นหรือจังหวัดอื่นๆเราสามารถปูพรมคิดเองทำเองได้ทั้งจังหวัด
ด้านนายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี กล่าวว่าการประกาศเปิดเมืองหัวหิน รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ”หัวหินรีชาร์ท”ตามนโยบายของรัฐบาลในเฟส 2 นั้นก็เป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลเล็งเห็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนักเกือบ 2 ปี แต่อยากสะท้อนว่าการเปิดเมืองหัวหิน รับต่างชาติ ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้และคาดการณ์รายได้ 1,200 ล้านบาท ดูจะเป็นตัวเลขที่ไม่น่าเป็นไปได้ และควรหันมาให้ความสำคัญกับตลาดคนไทยมากกว่า อย่าลืมไปว่าควรต้องเชื่อมโยงพื้นที่ หัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี อำเภอเมือง ลงไปถึง อ.บางสะพานน้อย ทุกพื้นที่มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกอำเภอ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่ผ่านมาผู้ปอบการทุกแห่งได้รับผลกระทบทั้งหมด โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านนวดแผนโบราณ สปา ตลาดที่มีชื่อเสียงอย่างตลาดโต้รุ่งหัวหิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องท่องเที่ยวในพื้นที่ต้องอย่าลืมโรงพรม รีสอร์ท ตลอดจนธุรกิจท่องเที่ยวระดับล่างหรือเอสเอ็มอีด้วย อย่างมองเพียงโรงแรมใหญ่เท่านั้น ถูกต้องวันนี้บอกว่าพนักงานโรงแรม ผู้ประกอบท่องเที่ยว ร้านขายของ ร้านอาหาร ส่วนหนึ่งยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 เข็มก็มีถึงแม้จะมีการยืนยันว่าจะเกิน 70 เปอร์เซนต์แน่ๆก่อนการเปิดก็ตาม
สิ่งสำคัญตลาดประเทศที่จะบินมาเพื่อมาท่องเที่ยวที่หัวหิน ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมีบริษัททัวร์ไปรับหรือรถโรงแรมที่หัวหินไปรับเข้าพักโรงแรมตามที่มีการกำหนด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงแรมใหญ่ 5 ดาว ได้มาตรฐาน CHA ส่วนธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ขนาดเล็ก และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่อเนื่องจะได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้หรือไม่ แต่หากเปิดตลาดคนไทย มั่นใจว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายเล็ก หรือเอสเอ็มอี จะลืมตาปากได้
ตอนนี้ 1 ตุลาคม ก็จะเปิด”ท่องเที่ยวเมืองชะอำ” ต้อนรับตลาดคนไทยและตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศเสริม ซึ่งมาตรการต่างๆผู้ประกอบการโรงแรมในอำเภอชะอำ และภาคธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆเค้าก็มีการเตรียมพร้อมในเรื่องการป้องกันเรื่องของโควิด-19 เราไม่มีคลัสเตอร์เกิดขึ้นเหมือนอำเภอหัวหิน ตอนนี้สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการติดตามข้อมูลหัวหิน และอำเภออื่นๆก็ยังมีคลัสเตอร์การแพร่ระบาดต่อเนื่อง ยังไงก็ตามก็ยังอยากเห็นมิใช่การเปิดเพียง 2 ตำบลของเมืองหัวหิน ควรจะเปิดทุกอำเภอ และทำตลาดคนไทยน่าจะได้ประโยชน์ อยากให้ศึกษาจากภูเก็ตแสนด์บ๊อกซ์ ทำอย่างไรให้ผ็ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่เดือดร้อนทั้งใหญ่เล็กได้รับประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกันนายศิราสิทธิ์ เติมพงศ์ธานิน ผู้จัดการโรงแรมซิตี้บีชรีสอร์ท หัวหิน กล่าวว่าที่ผ่านมาโรงแรมฯได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ต่อเนื่องมาถึง64 ตั้งแต่เมษายน ต้องปิดชั่วคราว มีห้องพักอยู่ 163 ห้อง เป็นโรงแรมระดับ3 ดาวเพราะนักท่องเที่ยวเข้าพักน้อย ค่าใช้จ่ายสูงจึงต้องประหยัดตอนนี้ปิดมาตั้งแต่เมษายน-กันยายน ตอนนี้ครึ่งปีมีการลดพนักงานลง ซึ่งจะเริ่มเปิดรับรักท่องเที่ยวในเดือนตุลาคม ตอนนี้เริ่มเปิดรับจองแล้วส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย ซึ่งขายในราคาคืนละ 800 บาทไม่รวมอาหารเช้ามีการจองผ่านเอเจนซี่ลูกค้าที่จะต้องปฏิบัติการตามมาตรการของสาธารณสุข ส่วนลูกค้าต่างชาติก็คงจะเป็นปีหน้า แต่ไม่รู้ว่าเมื่อถึงช่วงนั้นจะเข้ามาได้หรือไม่ โดยลูกค้าต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่มาพักที่โรงแรม 2-3 ห้องแต่มาอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ยอมรับการเปิดท่องเที่ยวหัวหิน รับต่างชาติไม่ได้มีผลอะไรกับโรงแรมระดับล่างหริอเอสเอ็มอีมากนัก น่าจะมีผลโรงแรม5 ดาวมากว่าซึ่งโรงแรมเหล่านั้นมีตลาดอยู่ในมือ และส่วนใหญ่อยู่ติดทะเล มีการจัดแพคเก็จและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนในทางปฏิบัติจะทำได้มากน้อยขนาดไหนก็ว่ากันอีกเรื่อง ซึ่งส่วนตัวก็ยังอยากเห็นการเปิดในภาพรวมของทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ใช่เพียง 2 ตำบล ในขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้ก็ยังมีคลัสเตอร์เกิดขึ้นในจังหวัดเรา ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะนิ่งหรืออาจจะเกิดคลัสเตอร์ขึ้นมาอีกในช่วงนั้น แล้วจะทำอย่างไร ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: