นราธิวาส-“ม้าเหล็กชายแดนใต้” ซบเซาหลังพิษโควิด-19 เล่นงานอ่วม หนำซ้ำ “โจรใต้ลอบบึ้มอีกระลอก ทหารปรับแผน รปภ.เข้ม หวังคืนความเชื่อมั่นสู่ ปชช.
ท่ามกลางสถานการณ์ “Covid-19” ที่ถาโถมเข้าสู่ทุกพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดปลายด้ามขวานไทย แต่ “ไฟใต้” ยังคงคุกรุ่นอยู่เนืองๆ ไม่หยุดหย่อน ซึ่งเช้าของวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กลิ่นโชยของความโหดร้ายจากน้ำมือของ “โจรใต้” ที่ยังคงกัดไม่เลิกกับ “ม้าเหล็ก” ที่เป็นพาหนะของผู้คนระดับรากหญ้ามาเนิ่นนาน เสียงระเบิดและเสียงปืนดังกระหน่ำเป็นระยะๆ กับขบวนรถไฟขนส่งพัสดุและผลผลิตทางการเกษตร ขบวนพิเศษที่ 986 ที่ทำขบวนมาอย่างช้าๆ เมื่อถึงสองข้างทางที่เป็นป่ารกทึบ ระหว่างสถานีป่าไผ่-สถานีตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้พนักงานและเจ้าหน้าที่บนขบวนดังกล่าวต้องพากันหมอบลงกับพื้น เพื่อหวังเอาชีวิตให้รอด
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า ตอกย้ำความรู้สึกเกลียดชัง “โจรใต้” ให้กับคนในพื้นที่อย่างแสนสาหัส ทั้งๆ ที่ขบวนรถไฟที่โดนลอบกัดกำลังทำขบวนนำผลิตผลทางการเกษตรที่ราคาตกฮวบหลังพิษ “Covid-19” เล่นงาน ซึ่งทางการรถไฟแห่งประเทศไทยช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าในราคาที่ถูกลง เพื่อนำผลผลิตกระจายสู่ภาคต่างๆ
นับตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน เวลาลุล่วงมาถึงกว่า 17 ปี ที่กลุ่ม “โจรใต้” ยังคงพยายามสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ปลายด้ามขวานอยู่เสมอมา แม้กระทั่งขณะนี้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “Covid-19” ก็ตามที และความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสของเกษตรกรสวนผลไม้ที่กำลังออกดอกออกผลเต็มพื้นที่ เป็นความหวังของเขาเหล่านั้นที่จะได้นำผลผลิตส่งไปจำหน่ายตามจังหวัดต่างๆอย่างทั่วถึง นำรายได้มาจุนเจือครอบครัวในยามที่เศรษฐกิจทรุดหนัก เรียกว่า “ผีซ้ำด้ามพลอย” ถูกลอบวางระเบิดขบวนรถไฟสายดังกล่าว ส่งผลให้การเดินรถต้องหยุดชะงัก สินค้าทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ ทั้งลองกอง เงาะ ทุเรียน ที่กำลังลำเลียงไปตกค้างเน่าเสีย ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่รู้จะทวงถามความรับผิดชอบได้จากใคร??
การหยุดชะงักของขบวนรถไฟทุกขบวนในทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ผ่านๆ มา รวมถึงครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักกับประชาชนที่ต้องใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง และสถานีรถไฟตันหยงมัสก็เป็นสถานีสำคัญที่เป็นจุดขึ้นลงที่ผู้โดยสารจะเดินทางไปยังอำเภอต่างๆ รอบนอกของจังหวัดนราธิวาส
อย่างไรก็ตาม การควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ตลอดห้วงกว่า 17 ปีที่ผ่านๆมา ความพยายามในการจำกัดเสรีฝ่ายตรงข้ามทุกวิถีทาง และล่าสุด พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส สั่งกำชับให้กองกำลังในพื้นที่จัดวางกำลังให้รัดกุม ปรับแผนการ รปภ.ขบวนรถไฟอย่างเข้มข้น มีการเพิ่มเครื่องมือพิเศษในการตรวจสอบเส้นทาง ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณที่เป็นจุดล่อแหลม ส่วนระหว่างทาง มีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ออกลาดตะเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟและจุดล่อแหลม เพื่อสร้างความมั่นใจต่อพนักงานและเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ ก่อนทำการปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวแรกทั้งขาขึ้นและขาล่อง ระยะทาง 24 กิโลเมตร จัดวางกำลังเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตลอดริม 2 ข้างทาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญเฝ้าระวัง “โจรใต้” ลอบกัดซ้ำอีก
