เพชรบูรณ์อ่วม! ฝนตกหนักลำน้ำสาขาใน 2 ตำบลฯหล่มเก่า เอ่อทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรเสียหายยับ (ชมคลิป)
วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุฝนหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา(8ก.ย.) บริเวณเทือกเขาในเขต อ.ด่านซ้าย จ.เลย ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากลงสู่ห้วยน้ำเลา, ห้วยน้ำหญ้า ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำป่าสัก ในจ.เพชรบูรณ์ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว และไหลทะลักออกจากตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่อาศัยบริเวณสองฝั่งริมห้วยน้ำเลาและห้วยน้ำหญ้า ในเขตตำบลตาดกลอยและตำบลศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ในขณะที่กระน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากและพักพาสวะต้นไม้ใบหญ้าและท่อนไม้ไหลมากับกระแสน้ำ กระทั่งไหลไปกองรวมตามบ้านพักอาศัยของราษฎรและถนนในหมู่บ้าน จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เนื่องจากราษฎรขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำไม่ทัน ประกอบเป็นช่วงกลางคืนทำให้ทรัพย์สินและสิ่งของต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือการเกษตรจมน้ำหรือถูกกระแสพัดพา ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก หมู่ที่ 15 ต.ตาดกลอย เมื่อเวลาราว 22.00 น.ของคืนวันที่ 8 ก.ย.ระดับน้ำท่วมสูงกว่าราวสะพานราว 10 ซ.ม. ส่งผลให้ถนนช่วงนี้ถูกตัดขาด โดยรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนหน่วยสำรวจน้ำแม่น้ำป่าสัก s33 ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักบริเวณนี้ ถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลบ่าออกจากตลิ่งเข้าท่วมตัวอาคารของหน่วยฯ โดยระดับน้ำภายในอาคารสูงราว 150 ซม. ในขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักจุดหน่วยสำรวจน้ำฯ ช่วงพีคสูงสุดราว 04.00 น.วันที่ 9 ก.ย.วัดได้ 10.15 เมตร ต่อมาราว 06.00 น.กระแสน้ำในลำน้ำสาขาและแม่น้ำป่าสักจึงปรับลดลง และเวลาราว 11.20 น.ระดับน้ำป่าสักวัดได้ราว 7 เมตรเศษ
ข่าวน่าสนใจ:
นายสุรินทร์ จันทวงศ์ อายุ 58 ปี นายช่างสนามประจำหน่วยสำรวจน้ำแม่น้ำป่าสัก s33 หมู่ 15 ต.ตาดกลอย กล่าวว่า หลังฝนหนักในเขตพื้นที่พื้นที่ต้นน้ำสาขาแม่น้ำป่าสัก ทำให้น้ำป่าไหลมารวมกันไหลทะลักพื้นที่ตอนล่างจนเป็นเหตุให้กระแสน้ำไหลทะลักออกจากตลิ่งและท่วมพื้นที่บริเวณริมตลิ่งทั้งลำน้ำสาขาและแม่น้ำป่าสัก โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่หน่วยฯ s33 พีคสูงสุดเมื่อราว 04.00 น.วัดได้ 10.15 เมตร โดยระดับน้ำในครั้งนี้ถือว่าสูงมากที่สุดตั้งแต่ย้ายมาประจำหน่วยสำรวจน้ำที่นี่ราว 7-8 ปีมาแล้ว โดยสูงกว่าเมื่อปี 2560 ที่มีน้ำท่วมหนักในพื้นที่บริเวณนี้ด้วย
“เมื่อคืนผมก็ยังไม่คิดว่าน้ำจะสูงอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หลังแจ้งวิทยุเตือนไปยังอำเภอและท้องถิ่นแล้ว ประกอบเป็นช่วงกลางคืน ทำให้ย้ายทรัพย์สินหนีน้ำไม่ทัน กระทั่งสิ่งของต่างๆในอาคารหน่วยฯ โดยเฉพาะเครื่องวัดน้ำกรมชลประทานมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทที่ติดตั้งอยู่ต้องจมน้ำทันที และเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากแรงมาก ทำให้ไม่สามารถจะเปิดประตูหนีฝ่ากระแสน้ำออกไปได้ จึงทุบบานเกล็ดหน้าต่างเตรียมมุดหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคา และยังเล็งไว้ด้วยว่าหากระดับน้ำยังไม่ลดก็อาจต้องปีนเสาวิทยุเอาตัวรอด แต่ยังโชคดีพอเวลา 04.00 น.ระดับน้ำถึงจุดพีคและค่อยๆ ปรับลดลง ส่วนสัตว์เลี้ยงไก่ขนที่เลี้ยงไว้กว่า 30 ตัวก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไปด้วย”นายสุรินทร์กล่าว..
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: