เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ สภ.เมืองระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สบ.9) ตรวจติดตามโครงการ”สมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0”ของ สภ.เมืองระยอง มี พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ นายอำเภอเมืองระยอง พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง และ พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรโยธิน ผกก.สภ.เมืองระยอง ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปโครงการให้รับทราบ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมชมผลการดำเนินการโครงการ”สมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0”ในชุมชน และมอบอุปกรณ์และเจลแอลกอฮอล์ ป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนในพื้นที่ด้วย
พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่า สภ.เมืองระยอง เป็น สภ. 1 ใน 15 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้นำโครงการดังกล่าวมาใช้ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะสุดล้ำ และการร่วมมือภาคประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน ซึ่งดูแลครอบคลุมพื้นที่ 4.4 ตารางกิโลเมตร เขตพื้นที่เทศบาลนครระยอง เทศบาลตำบลเนินพระ และเทศบาลตำบลเชิงเนิน ประชากร 8,053 ครัวเรือน โดยการนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันอาชญากรรมดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การติดตั้งระบบกล้อง CCTV จำนวน 130 ตัว ในจุดที่สำคัญ ซึ่งมีทั้งกล้องวิเคราะห์ทะเบียนรถและจดจำใบหน้าคนอย่างชัดเจน และห้องควบคุม CCOC กล้องวงจรปิดที่ใช้ในงานสืบสวน จราจรและสายตรวจ 24 ชม. 2.ตู้แดง 4.0 3.แอพพลิเคชั่น police I lert u 4.โครงการฝากบ้านกับตำรวจ 4.0 5.ติดตั้งระบบ GPS ในรถสายตรวจ 6.ระบบแจ้งเอกสารหายออนไลน์ 7.การสร้าง Line official account ของโครงการ 8.การใช้ระบบไฟฟ้าโซลาเซล และ 9.เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สบ.9) กล่าวว่า โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 เป็นโครงการที่ ผบ.ตร.ริเริ่ม เป็นการโครงการที่นำการทำงานรูปแบบใหม่ของตำรวจ คือการทำงานเชิงรุก การป้องกันนำการปราบปรามซึ่งตรงใจกับความต้องการของประชาชน ซึ่งโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ต่อยอดมาจากโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ซึ่งเพื่อให้เป็นเมืองอัจฉริยะโดยมีการนำร่อง 15 สถานีตำรวจในเมืองหลักซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อเปิดประเทศในระยะอันใกล้ และรองรับนักท่องเที่ยว นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อประเทศ หลังจาก 1 ต.ค.นี้เป็นต้น ผบ.ตร.มีนโยบายจะขยายเพิ่ม 1 จังหวัด 1 โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซนทั่วทั้งประเทศ เมื่อทำโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 เสร็จแล้ว ทุกภาคส่วน และประชาชนในชุมชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุ เพื่อให้การป้องกันเหตุได้รวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกำชับ เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน รวมทั้งการทำงานเชิงรุกเน้นการทำงานเน้นการป้องกันนำการปราบปรามด้วย.
