สมุทรสาคร – ผู้ว่าฯ “ณรงค์ รักร้อย” เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรก เผยหนักใจสถานการณ์โควิด แต่เชื่อมั่นทีมจังหวัดฯ แข็งแรงทุกองคาพยพ เล็งฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้อง สานต่อโครงการผู้ว่าฯ คนก่อน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนใหม่ พร้อมด้วย นางเตือนจิตร รักร้อย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางมาเข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรก โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะผู้บริหารจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมให้การต้อนรับ และเดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร, พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และองค์หลวงปู่แก้ว วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เข้าพบกับพระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และบุคคลสำคัญในจังหวัดอื่น ๆ ตามลำดับ
นายณรงค์ เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ก็ต้องขอบคุณทางรัฐบาล ที่กรุณามอบหมายภารกิจให้มาทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร ต้องเรียนว่าโดยส่วนตัวแล้วได้แค่ผ่านไปมาแทบจะไม่เคยแวะเข้ามาที่จังหวัดแห่งนี้ ดังนั้นข้อมูลทุก ๆ ด้านของสมุทรสาคร ได้รับทราบทางสื่อต่าง ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้มาสัมผัสจริง จึงถือโอกาสได้มาทำงานให้พี่น้องชาวสมุทรสาคร ก็มีความรู้สึกยินดีมาก จากเดิมที่ตนรับราชการส่วนใหญ่ในภาคอีสานเป็นหลัก แล้วมาอยู่ภาคกลาง และภาคเหนือคือผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ส่วนใหญ่แล้วตนอยู่ในพื้นที่เกษตร ตอนนี้มาอยู่ในพื้นที่ ๆ มีทั้งประมง อุตสาหกรรม และเกษตร ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสมกับที่ทางรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีได้กรุณาให้มาทำงานที่นี่
ส่วนภารกิจในการเป็นแม่ทัพแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 นั้นมีความหนักใจหรือไม่ นายณรงค์ กล่าวว่า ตนไม่เคยรับราชการในพื้นที่แถบนี้ ดังนั้นเรื่องของความหนักใจก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นพื้นที่ใหม่ และตนไม่เคยอยู่ตรงนี้ อย่างที่บอกว่าการทำงานทุกอย่างก็ต้องมีปัญหา แต่ตนเชื่อว่าทีมจังหวัดฯ ทุกองคาพยพที่นี่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ทราบมามีความเข้มแข็งและมีความแข็งแรง ดังนั้นก็จะทำให้สิ่งที่หนักใจเบาลงไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เป็นเรื่องปกติของการมาทำงานที่ใหม่ก็ยังไม่รู้ข้อมูลอะไร ยังไม่รู้ทั้งพื้นที่ ทั้งคน
สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะทำนั้น ก็คงเป็นเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และที่ติดตามมาและพอทราบมาก็คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมคงเป็นประเด็นหลัก ต้องเรียนว่าในช่วงตั้งแต่ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรีออกมาเพื่อให้ตนย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไร ต้องเคลียร์งานที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งก็มีผู้ติดเชื้อเยอะ แต่ส่วนใหญ่รับมาจากจังหวัดอื่นซึ่งเป็นคนอุทัยธานี เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ได้ทราบข้อมูลอะไรมากนัก ทางจังหวัดสมุทรสาครจะไปพบแล้วเอาข้อมูลมานั่งพูดคุยกัน แล้วพอดีได้รับโปรดเกล้าฯ ต้องรีบเดินทางมาที่นี่ดังกล่าว ก็เลยยังไม่ทราบข้อมูล แต่ก็คงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฯ ก็พยายามที่จะให้ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
นายณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาหลักก็คือเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งดูจากข้อมูลแล้วก็เบาลง ดังนั้นปัญหาหลักต่อไปก็คือเรื่องของปากท้องและเศรษฐกิจในพื้นที่ ก็ต้องค่อย ๆ ทำกัน แล้วก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอื่นที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดสมุทรสาคร เรื่องของภูมิทัศน์ซึ่งนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ คนก่อน ที่พยายามจะปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนเส้นหนึ่งก่อนที่จะเดินทางไปที่จังหวัดอ่างทอง นั่นคือสิ่งที่ต้องทำก็ต้องไปต่อยอด และทำงานตามแผนของจังหวัดฯ ที่ได้กำหนดเอาไว้
สำหรับวิธีคิดในการทำงานของตนนั้น มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล จังหวัดไม่ใช่ฝ่ายนโยบาย เป็นผู้ปฏิบัติ แต่มันมีช่องที่ว่าการทำงานเราจะคิดอะไรที่มันนอกเหนือจากนโยบายรัฐบาลได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทำตามนโยบายให้ประสบความสำเร็จให้ได้ ตนมองว่าเป็นวิถีชีวิตของข้าราชการอยู่แล้วที่จะต้องทำ ส่วนตัวแล้วถ้าเกิดเราลุกออกจากที่นี่ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือไม่ให้มีคนด่าตามหลังตนเท่านั้นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: