วันที่ 30 ก.ย. 2564 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อหารือเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตลอดจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ ดำเนินการอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองบัว บ้านแก่งเสือเต้น ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงท้ายน้ำ ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เกินความจุ ทะลุ 100 % ไปแล้ว โดยล่าสุดเช้านี้ มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 1,014.15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 105.64 ของความจุปกติของเขื่อนที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อนอยู่ที่ 153.40 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน ทำให้มีความจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำ ครบทั้งหมด 7 บาน เพื่อปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอีกเท่าตัว จากเมื่อวานนี้ 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพิ่มเป็น 103 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีน้ำเหนือ ไหลลงตัวเขื่อนในปริมาณมาก จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ อ.วังม่วง อ.แก่งคอย อ.เมืองสระบุรี อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันอีก 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร และเมื่อปริมาณน้ำทางตอนบนลดลงแล้ว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเริ่ม ปรับลดการระบาย เพื่อลดปริมาณน้ำด้านท้ายลง
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่างและกรมชลประทานมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชนนอกคันกั้นน้ำบริเวณ วัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และเยี่ยมครอบครัวประชาชน ผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่ม ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 60 ครัวเรือน ณ ศูนย์อพยพชั่วคราว ใต้สะพานยกระดับข้ามทางรถไฟ และ ศูนย์อพยพหน้าวัดแก่งเสือเต้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: