ชัยภูมิ – หลังนำศพไปทิ้งอำพรางกลางทุ่งนาชาวบ้าน สาวเจ้าตัวผู้ก่อเหตุเผยพร้อมรับโทษสิ่งที่ทำผิดไปแล้ว อยากฝากขอโทษพ่อแม่และฝากเตือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ หากคิดจะมีแฟนรักสนุกอย่างเดียวไม่ได้ ควรรู้จักป้องกัน หากท้องไม่พร้อมแล้ว ยากที่จะหาทางออกได้ พร้อมทำใจขอรับโทษกับสิ่งที่ทำลงไปตามกฎหมายต่อไปเอง!
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาวันที่ 10 ต.ค.64 มีความคืบหน้าเพิ่มเติม หลังล่าสุดที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวันเดียวกัน ทางจนท.ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ ตามรวบตัวแม่ใจยักษ์วัย19ปีรายนี้ได้แล้ว หลังก่อเหตุฆ่าลูกเพิ่งคลอด หลังลงมือสังหารเด็กสุดโหดก่อนนำศพยัดกระเป๋าเดินทางนำไปทิ้งกลางทุ่งนาชาวบ้าน สารภาพสิ้นทำไปเพราะไม่ตั้งใจท้องไม่พร้อม
หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวันที่ 10 ตุลาคม 2564 กรณีหลังมีชาวบ้านไปพบกระเป๋าเดินทาง มีเลือดไหลออกมา ถูกนำมาทิ้งไว้กลางทุ่งนา ในหมู่บ้านนาสีนวล หมู่ที่ 7 ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิไปตรวจสอบ พบภายในกระเป๋าสีดำมีร่างศพทารกเพศหญิง อายุครรภ์ราว 8 เดือน สภาพศพเริ่มเน่าเปลือย และมีการตรวจสอบยังพบว่าถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ถูกสายชาร์จโทรศัพท์มือถือรัดคอ จนเสียชีวิตมาแล้วน้อยกว่า 4-5 วัน ก่อนที่ชาวบ้านจะมาพบกระเป๋าใบดังกล่าว แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ซึ่งล่าสุดด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ระดมทีมสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุซึ่งแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว จนสามารถแกะรอยจากเสื้อที่พบในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเสื้อตัวดังกล่าวเป็นของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ กระทั้งทราบตัวแม่ใจยักษ์รายดังกล่าวชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปควบคุมตัวได้ในหอพักบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ( 10 ต.ค.64 )
โดย น.ส.เอ วัย 19 ปี แม่ใจยักษ์รายนี้ เปิดเผยให้การรับสารภาพว่าตนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เป็นแบบนี้ แต่ตนเองและแฟนหนุ่มนั้นไม่พร้อมที่จะมีลูกในขณะนี้ ซึ่งตนเองนั้นเป็นพนักงานอยู่คนละที่กับแฟนหนุ่ม กระทั้งตัวเองตั้งท้องอายุครรภ์ใกล้คลอดได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว และได้คลอดลูกออกมาเอง อยู่ในหอพักเนื่องจากอยู่คนเดียวเกิดตกใจเมื่อลูกคลอดออกมาก่อนกำหนด และร้องเสียงดัง กลัวคนจะได้ยินจึงหาคว้าอะไรเท่าที่จะหาได้ ไปเจอสายชาร์จโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างตัวพอดี จึงคว้ามารัดคอลูก จนกระทั้งไม่ได้ยินเสียงร้องและลูกเสียชีวิต
ก่อนที่จะหาผ้ามาห่อหุ้มศพลูกหลายชั้น และนำใส่ถุงดำยัดใส่กระเป๋าเดินทางหุ้มด้วยถุงดำอีกชั้น ก่อนขับรถจักรยานยนต์ (จยย.) นำศพลูกไปมาทิ้งไว้บริเวณกลางทุ่งนาชาวบ้านจุดดังกล่าว ซึ่งนำศพลูกไปทิ้งในจุดนี้มานานกว่า 5 วันแล้ว จนมีชาวบ้านมาพบ ซึ่งแม่ใจยักษ์รายนี้ยืนยันอีกว่าส่วนตัวแฟนหนุ่มของตนเองนั้น ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องด้วยเพราะขณะนั้นตนเองคลอดลูกก่อนกำหนดคนเดียวในหอพัก และยืนยันไม่ได้ใช้ของแข็งทุบศรีษะลูกจนเสียชีวิตแต่อย่างใดตามที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากตอนนั้นอยู่คนเดียวทำอะไรไม่ถูกตกใจคว้าอะไรได้ก็นำมารัดก่อน ก่อนที่จะนำศพลูกไปทิ้ง
ซึ่งล่าสุดต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ต.ค.64 วันเดียวกันที่ผ่านมา ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้นำตัวแม่ใจยักษ์ วัย 19 ปี รายนี้ มาสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว ก่อนที่ได้นำตัวสาวใจแตกแม่ใจยักษ์รายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในจุดเกิดเหตุแรกที่ห้องพักที่มีการคลอดลูกออกมาก่อนกำหนดครรภ์เพียง 9 เดือน ก่อนที่ลูกตัวเองซึ่งเป็นเพศหญิง เด็กทารกแรกเกิดได้ส่งเสียงร้องดัง สาววัย 19 ปี ผู้เป็นแม่กลัวคนใกล้เคียงห้องพักทราบเรื่อง จึงตัดสินใจใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือตัวเองรัดคอลูกทารกที่เพิ่งเกิดจนเสียชีวิต ก่อนนำศพน้องใส่กระเดินทางขี่ จยย.จัวเอง นำไปทิ้งอำพรางในที่นาชาวบ้านจุดเกิดเหตุก่อนมีคนไปพบศพดังกล่าว ก่อนที่ จนท.ตร.ควบคุมตัวมาแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่งตัวแม่ใจแตกรายนี้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พร้อมตัวสาวแม่ใจแตก วัย 19 ปี ฆ่าโหดลูกรายนี้ จะกล่าวทิ้งท้าย พร้อมขอรับโทษสิ่งที่ทำผิดไปแล้วทุกอย่าง และอยากฝากขอโทษพ่อแม่ตัวเองที่ตนเองได้หลงผิดไปแล้วไม่เชื่อฟังพ่อแม่ว่ามีอะไรให้บอก แต่ตัวเองกลับโกหกพ่อแม่ในทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอด และฝากเตือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ หากคิดจะมีแฟนรักสนุกอย่างเดียวไม่ได้ ควรรู้จักป้องกันตัวเองด้วย หากท้องไม่พร้อมแล้ว ก็ยากที่จะหาทางออกได้ พร้อมทำใจขอรับโทษที่ก่อเหตุลงไปในครั้งนี้ทั้งหมดตามกฎหมายต่อไปเอง
