ฉะเชิงเทรา – ทดลองบ่อย ทำชาวบ้านรำคาญแจ้งตำรวจบุกค้นพบเป็นแหล่งผลิตอาวุธปืนกลางชุมชน ก่อนรวบผู้ต้องหาได้ 7 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนมากถึง 5 คน พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนไทยประดิฐ 19 กระบอก รวมถึงเครื่องมืองานช่างที่ใช้ในการผลิต นำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยังที่กองบังคับการ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ก่อนเตรียมขยายผลความเชื่อมโยง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการชุมนุมทางการเมือง ยังพื้นที่ กทม. หรือไม่
วันที่ 10 ต.ค.64 เวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.คมกฤษ ศรีผ่องงาม รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้อง ได้นำอาวุธปืนของกลางแบบไทยประดิษฐ์รีวอลเวอร์ รวมทั้งอาวุธปืนแบบกึ่งออโตเมติก และแบบหักลำกลาง รวม 19 กระบอก
ข่าวน่าสนใจ:
เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ขนาด 11 มม. ขนาด .22 มม. และลูกปืนลูกซองเบอร์ 12 รวมทั้งสิ้น 98 นัด กัญชาแห้งน้ำหนัก 1.61 กรัม แบบบันทึกผลการตรวจปัสสาวะ ที่ออกมาเป็นผลบวก 5 แผ่น มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยังภายในห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะนำตัว นายจักกริช ยะก๊บ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.7 ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก และนายศุภโชค แซ่ตั้น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/4 ม.1 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ออกมาสอบสวนปากคำภายในห้องประชุม
โดย พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.64 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก. สภ.ฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นห้องแถวต่อเติมไม่มีเลขแห่งหนึ่งในพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านข้างเคียงว่า ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 7 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมด้วยเยาวชนอีกจำนวน 5 คน เข้ามาจับกลุ่มมั่วสุมกันอยู่ภายในห้องแถวดังกล่าว
อีกทั้งยังมีการนำอาวุธปืนออกมาทดลองยิงบ่อยครั้ง เป็นประจำในช่วงยามค่ำคืน จึงได้ทำการสืบสวนและขอหมายค้นจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา เข้าไปตรวจค้นจับกุมจนพบของกลางจำนวนมากดังกล่าว พร้อมด้วยผู้ต้องหาทั้ง 7 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันทำอาวุธปืน ส่วนควบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย กระทำการมั่วสุมกันสุ่มเสี่ยงฯ ฝ่าฝืน พรบ.โรคติดต่อ และยังได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อผู้ที่มีผลการตรวจปัสสาวะออกมาเป็นบวกด้วย ในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย”
ซึ่งในการจับกุมแหล่งผลิตอาวุธปืนรายใหญ่ได้ในครั้งนี้ พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าวด้วยว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่มีคำสั่งให้กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการระดมกวาดล้าง ยาเสพติดและอาวุธปืน รวมตลอดถึงอาชญากรรมทุกประเภท ในการที่จะเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการระดมกวาดล้างตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด และมอบนโยบายมายัง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉิมพลี ได้ทำการกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนรายใหญ่ในครั้งนี้ได้ จึงได้ทำการจัดเป็นเงินรางวัลตอบแทน และมอบให้เป็นขวัญกำลังใจต่อทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นเงินจำนวน 19,000 บาท หรือเป็นการตอบแทนผลงานการจับกุมอาวุธปืนในครั้งนี้ กระบอกละ 1 พันบาท
โดยหลังจากนี้จะได้ประสานให้ทางพิสูจน์หลักฐาน ได้มาทำการเก็บหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และทำการตรวจสอบเพื่อเก็บเกลียวลำกล้องของอาวุธปืนแต่ละกระบอก เพื่อหาความเชื่อมโยงว่า อาวุธปืนเหล่านี้ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ หรือไม่ หรือเคยถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทและทำร้ายกันหรือไม่ โดยจะมีการสืบสวนถึงความเชื่อมโยงกันต่อไป พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: