X

ผู้บริหาร ม.นครพนม หลังชฎาหลุดสมคบคิดตั้งตัวเองเป็น อ.คณะฯ โดยไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หน้าแหกถูกสวนกลับแต่ตีมึน

นครพนม – ผู้บริหาร ม.นครพนม หลังชฎาหลุดสมคบคิดตั้งตัวเองเป็น อ.คณะฯ โดยไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หน้าแหกถูกสวนกลับแต่ตีมึน ปลื้มอดีต อธก.มอบเงินตั้งกองทุนช่วยนักศึกษา

คืบหน้า หลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ (อดีตหมอรางวัลแมกไซไซ พ.ศ. 2516 สาขาผู้นำชุมชน จากมูลนิธิรามอน แมกไซไซ ประเทศฟิลิปปินส์) เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2564 เป็นต้นมา

หลังจากนั้นวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ได้เปิดประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนมนัดปฐมฤกษ์ โดยในที่ประชุมมีฉันทามติเลือก ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา กรรมการสภาฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม(รก.อธก.มนพ.) แทน ดร.ทัศนา ประสานตรี ที่ได้หมดวาระรักษาราชการฯครบ 180 วันในวันที่ 6 ตุลาคม 2564 นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้หารือในการช่วยเหลือบุคลากร พนักงาน และเจ้าหน้าที่วิทยาลัยการบินนานาชาติ (ว.การบิน) กรณีไม่ได้รับเงินเดือนย่างเข้าสู่เดือนที่ 9 แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากกลุ่มอดีตผู้บริหาร โดยจะเปิดประชุมเป็นวาระพิเศษในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ซึ่งหลังการประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม มีกรรมการสภาฯผู้ทรงวุฒิอย่างน้อย 2 คน ยังมีธงในการหาทางยุบ ว.การบินฯ โดยอ้างว่าขืนอุ้มไปก็จะทำให้ผิดระเบียบข้อบังคับฯ แต่ไม่คิดจะสืบค้นหาตัวการที่ทำให้ ว.การบินฯ มีปัญหาคาราคาซังมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งมีความพยายามของคนบางกลุ่มที่เสื่อมอำนาจตั้งวอร์รูมต่อต้านการเข้ารับหน้าที่ของ ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา อ้างว่าการนำกรรมการสภาฯผู้ทรงคุณวุฒิ มาเป็น รก.อธก.มนพ.นั้น อาจไม่ถูกต้องตามระเบียบ ทั้งนี้ คณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภาฯ ก็เคยแต่งตั้งกรรมการในคณะฯเป็น รก.อธก.มนพ.คือ รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย

ล่าสุด มีอดีตผู้บริหารรายหนึ่ง ซึ่งได้หมดภาระหน้าที่ลงตามวาระ ได้สมคบคิดกับพรรคพวกแต่งตั้งตนเองบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำคณะหนึ่ง ประเภทวิชาการ(เงินรายได้) ค่าตอบแทน 33,390 บาท/เดือน โดยมีผลไปจนถึงเดือนกันยายน 2565 ซึ่งการกระทำดังกล่าวของอดีตผู้บริหารรายนี้ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะนั้นๆ แต่กลับใช้วิธีตั้งเองชงเองทั้งหมด กระทั่งมีหนังสือไปถึงคณบดีฯคณะนั้นทุกคนต่างตกใจ เพราะไม่เคยทราบล่วงหน้ามาก่อน
ต่อมา คณบดีฯมีหนังสือตอบกลับไปยังกลุ่มบริหารงานบุคคลประจำมหาวิทยาลัยนครพนม ใจความว่า คณะฯได้ตรวจสอบการขออนุมัติกรอบอัตรางานมหาวิทยาลัยฯ ประเภทวิชาการ (เงินรายได้) ดังกล่าวแล้ว ไม่มีข้อมูลที่สามารถอ้างอิงเพื่อดำเนินการขออนุมัติแต่งตั้งพนักงานมหาวิทยาลัยฯ กอปรทั้งการดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารจัดการเงินรายได้ตามแผนงบประมาณปี 2565 กล่าวคือ 1.ทางคณะฯไม่ได้แจ้งขออนุมัติกรอบอัตราพนักงานมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับแผนการจัดการเงินรายได้ของคณะฯ 2.คณะฯไม่ได้บรรจุกรอบอัตราพนักงานมหาวิทยาลัยฯ ไว้ในแผนประจำปีงบประมาณ 2565 และ 3.กระบวนการสรรหา บรรจุแต่งตั้งพนักงานมหาวิทยาลัยฯ (เงินรายได้) ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบที่ประชุมคณะกรรมการประจำคณะฯ

แม้จะมีหนังสือตอบกลับไปแล้ว แต่อดีตผู้บริหารรายนี้ยังตีมึน เข้าไปในคณะโดยอ้างถึงหนังสือแจ้งที่พรรคพวกส่งถึงคณะดังกล่าว ซึ่งคณาจารย์ในคณะไม่มีใครสนใจต่ออดีตผู้บริหารรายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีแนวคิดจะพัฒนาผลักดันมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด นอกจากนี้นั่งเป็นร่างทรงให้ตัวการใหญ่สั่งการเท่านั้น อีกทั้งไม่เคยใยดีต่อความเดือดร้อนของบุคลาการ พนักงาน เจ้าหน้า ว.การบิน และ รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยนครพนม ที่ไม่ได้รับเงินเดือนมาหลายเดือน ขณะที่ตัวเองและพรรคพวกต่างได้รับค่าตอบแทนกันทุกเดือน เมื่อมีการสอบถามก็ไล่ให้ไปฟ้องร้องเอา หลังหมดอำนาจก็ตีหน้ามึนเข้าไปทักทายผู้นั้นผู้นี้ราวกับคนละคน ต่างจากตอนมีอำนาจที่พูดจาเหยียดหยามสารพัด และกลุ่มอดีตผู้บริหารหลังหมดหน้าที่ก็กลับไปยังคณะที่ตนเคยอยู่ แต่ไม่มีใครให้ความสำคัญ

ด้าน ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้เดินสายพบปะกับบุคลากร และคณาจารย์วิทยาลัยต่างๆ ในสังกัดมหาวิทยาลัยนครพนม ไม่เว้นแม้แต่ ว.การบินฯ ซึ่งได้มอบนโยบายและให้กำลังใจแก่บุคลากรในการจะหาเงินมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน หลังวันที่ 15 ตุลาคมก็จะมีคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ปัจจุบันนอกจากจะดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขา ก.ค.ศ.) แล้ว ก็ยังได้โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยนครพนม เห็นปัญหาภายใน มนพ.มาโดยตลอด และทนเห็นพฤติกรรมของผู้บริหารบางกลุ่มไม่ไหว จึงประกาศลาออกจากการเป็นอธิการบดีฯ ได้มีหนังสือถึง รก.อธก.มนพ. ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เพื่อแสดงเจตจำนงช่วยเหลือนักศึกษาซึ่งเป็นลูกหลานชาวนครพนม และจังหวัดใกล้เคียง ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และนำความรู้ไปรับใช้บ้านเมืองในอนาคต จึงมอบเงินจำนวน 100,000 บาท(หนึ่งแสนบาท) เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุน เพื่อเป็นทุนการศึกษาฯ หากมีค่าตอบแทนในระหว่างเป็นกรรมการสภาฯก็จะมอบสมทบเข้ากองทุน โดยไม่รับค่าตอบแทนเหล่านั้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน