นครพนม – บวงสรวงเจ้าพ่อ 4 ทิศ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ ผู้ว่าฯลงเรือลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อย
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 07.29 น. บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดนครพนม ถนนอภิบาลบัญชา เทศบาลเมืองนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และเทพยดาที่ปกปักษ์รักษาเพื่อขอพร ก่อนจะมีพิธีเปิดงานบุญออกพรรษาประเพณีไหลเรือไฟประจำปี 2564 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-23 ตุลาคม 2564
สำหรับปีนี้จังหวัดนครพนมได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานเพื่อให้สอดรับกับมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ซึ่งจะไม่มีการแข่งขันเรือไฟดังเช่นทุกปี แต่จัดให้มีการไหลเรือไฟโชว์กลางลำแม่น้ำโขง ริมถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ทุกวันๆละ 2-3 ลำพร้อมกับการปล่อยกระทงสาย หรือไข่พญานาคที่มีดวงไฟประมาณ 8,000–12,000 ดวง โดยลำแรกจะปล่อยเป็นปฐมฤกษ์ในเวลา 19.00 น.ของคืนนี้
โดยการบวงสรวงเริ่มจากศาลหลักเมือง ถนนอภิบาลบัญชา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดฯ จากนั้นก็ไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าหอสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นคณะก็เดินทางไปยังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด(หลังเก่า) ริมฝั่งโขง ถนนสุนทรวิจิตร ไหว้ศาลพระภูมิบริเวณหน้าจวน และศาลเจ้าที่บริเวณหลังจวน,ศาลเจ้าพ่อคำแดง,พระติ้ว พระเทียม วัดโอกาสศรีบัวบาน,ศาลเจ้าพ่อหมื่น ศาลปู่-ย่า,ศาลเจ้าพ่อสิลสอง,พญาศรีสัตตนาคราช,หลวงปู่จันทร์,พระแสง วัดศรีเทพประดิษฐาราม และศาลเจ้าพ่อสัมมาติ
ต่อจากนั้นนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) และคณะได้ลงเรือลาดตระเวน นรข. เพื่อตรวจสอบร่องน้ำในการชักลากเรือไฟโชว์ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณริมฝั่งให้มีความสวยงาม โดยกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยร่วมกันอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ในช่วงเทศกาลงานไหลเรือไฟ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน
ทั้งนี้ งานบุญออกพรรษาเป็นหนึ่งในฮีตสิบสอง คองสิบสี่ คือขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติพันธ์ลาว ซึ่งร่วมถึงชาวอีสานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันฯ โดยจังหวัดนครพนมมีกิจกรรมไหลเรือไฟ เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท บูชาพญานาค และบูชาสิ่งศักดิ์ทั้งหลายที่อยู่ในแม่น้ำโขง และที่มีอยู่ในบ้านเมือง เช่น เทวดาประจำเมือง และผู้ปกปักษ์รักษาเมืองนครพนมทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ 1.เจ้าพ่อคำแดง ผู้รักษาเมืองด้านทิศเหนือ 2.เจ้าพ่อสัมมะติ ผู้รักษาเมืองด้านทิศใต้ 3.เจ้าพ่อหมื่น ผู้รักษาเมืองด้านทิศตะวันออก และ 4.เจ้าพ่อสิบสอง ผู้รักษาเมืองด้านทิศตะวันตก โดยเป็นการขมาต่อแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญต่อการดำรงชีวิต แต่ผู้คนได้ล่วงล้ำก้ำเกิน ทำการในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม โดยความตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจต่อแม่น้ำ และต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่มีอยู่ในแม่น้ำและอยู่ในบ้านเมือง อีกทั้งเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก ขอให้ความทุกข์โศก ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บ ความอัปมงคลของผู้คนลอยหายไปกับสายน้ำ พร้อมขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมาย ให้มาปกปักษ์รักษาบ้านเมืองปราศจากศัตรูรุกราน ขอให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ขอให้ข้าว ปลา อาหาร อุดมสมบูรณ์ เป็นต้น จึงได้เกิดประเพณีไหลเรือไฟของคนในลุ่มน้ำดังกล่าวข้างต้น
